พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะคณะทำงานแก้ปัญหาจราจร แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2561 ประเด็น กรมการขนส่งทางบก ได้พัฒนาระบบใบอนุญาตขับรถ หรือ ใบขับขี่ แบบอัจฉริยะ หรือ “ใบขับขี่ดิจิทัล” โดยจะเปิดใช้งานผ่านแอพพิลิเคชั่น “DLTSmart Licence” บนโทรศัทพ์มือถือสมาร์ทโฟน กลางเดือน ม.ค. 62 ในยุคไทยแลนด์ 4.0 เพื่ออำนวยความสะดวกไม่ต้องพกพาใบขับขี่ว่า
“ตำรวจเห็นด้วยกับการใช้ใบขับขี่ดิจิทัลของ ขบ. แต่ขณะเดียวกันตำรวจซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบสถานภาพในการขับรถของผู้ที่ได้รับใบขับขี่ ที่ต้องพกใบขับขี่ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 140 เนื่องจากเมื่อพบประชาชนฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ตำรวจจะตรวจสอบและเรียกเก็บใบขับขี่ไว้ชั่วคราวพร้อมออกใบสั่ง เพื่อใช้แทนใบขับขี่มีอายุ 7 วัน หลังจากนั้นผู้กระทำผิดต้องมาชำระค่าปรับตามวันเวลาที่ระบุไว้ในใบสั่ง จึงกังวลว่าการใช้ใบขับขี่ดิจิทัล ถ้าประชาชนกระทำผิด อาจจะเรียกเก็บใบขับขี่ไม่ได้ และอาจมีปัญหาเรื่องรายละเอียดการตรวจสอบข้อมูลในแอพฯกับผู้ถือใบขับขี่ว่า เป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ หรือเป็นใบขับขี่ของบุคคลนั้นจริงหรือไม่ อาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้ข้อมูลของบุคคลอื่นได้ ดังนั้นตำรวจจะเร่งประสานเข้าไปหารือกับ ขบ. เกี่ยวกับรายละเอียดแนวทางปฏิบัติโดยเร็ว ก่อนนำมาใช้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรือผลกระทบกับประชาชน”
วันเดียวกัน นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก แถลงแก่ผู้สื่อข่าว ว่า ข้อกังวลของตำรวจเรื่องจะยึดใบขับขี่ดิจิทัลของผู้กระทำผิดกฎจราจรไม่ได้นั้น ส่วนนี้นำมาหารือกันได้ โดยเรื่องเทคโนโลยีที่นำมาใช้พัฒนาแอพฯ สามารถออกแบบเพิ่มข้อมูลในการยึดใบขับขี่เช่น รายละเอียด วัน และเวลายึดใบขับขี่
สำหรับความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือข้อมูลในแอพฯกับผู้ถือใบขับขี่เป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่นั้น ระบบนี้จะคล้ายการโอนเงินผ่านแอพฯมือถือของธนาคาร (อีแบงก์กิ้ง) ซึ่ง ขบ. มีการจัดทำข้อมูลอย่างถูกต้อง ปลอดภัยและเชื่อถือได้เป็นอย่างดี เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนตัวของประชาชนที่มาขอทำใบขับขี่ ส่วนบุคคลที่จะดึงข้อมูลไปใช้เช่น ตำรวจ ต้องหารือรูปแบบการนำไปใช้อีกครั้ง สำหรับใบขับขี่ดิจิทัลนี้พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนที่ไม่ต้องการพกใบขับขี่และตอบสนองความต้องการไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ใบขับขี่ดิจิทัลจะใช้ได้เฉพาะประชาชนที่มีใบขับขี่สมาร์ทการ์ดแบบใหม่ที่มีคิวอาร์โค้ดเท่านั้น ส่วนประชาชนที่มีใบขับขี่รุ่นเก่าแบบกระดาษ ต้องมาเปลี่ยนใบขับขี่แบบมีคิวอาร์โค้ด เพื่อต่อยอดเป็นใบขับขี่ดิจิทัล ช่วงแรกเมื่อเปิดใช้ใบขับขี่ดิจิทัลจะยังใช้ควบคู่ไปกับใบขับขี่แบบพกพาอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีใบขับขี่รถโดยสารสาธารณะ อาทิ รถทัวร์ รถตู้ และรถบรรทุกที่ติดตั้งระบบจีพีเอส และต้องมีใบขับขี่รูดเพื่อแสดงตัวตนทุกครั้งก่อนออกเดินทางทุกครั้ง กรณีผู้มีใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยายนต์ (จยย.) หากมีความต้องการและพร้อมใช้ใบขับขี่ดิจิทัลก็ไปทำได้ทันทีอนาคตเมื่อประชาชนมีความพร้อมและคุ้นชินจะปรับเปลี่ยนมาใช้ใบขับขี่ดิจิทัลทั้งหมด”
matemnews.com
18 ธันวาคม 2561