ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินกล่าวในงานแถลงข่าวประจำปีว่ารัสเซียกำลังพัฒนาอาวุธใหม่เพื่อรักษาสมดุลทางยุทธศาสตร์และปกป้องความมั่นคงของประเทศ ในยามต้องเผชิญหน้ากับการล่มสลายของระบบป้องกันอาวุธระหว่างประเทศ
“เราจะรักษาความปลอดภัยของเรา เรารู้ว่าจะทำอย่างไร แต่โดยทั่วไปแล้ว สำหรับมนุษยชาติ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่แย่มาก เพราะมันจะพาเราไปสู่จุดที่เป็นอันตรายอย่างมหันต์” ปูตินกล่าว
เขาพูดถึงเรื่องในอดีต ตอนที่สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากสนธิสัญญาระบบต่อต้านขีปนาวุธ (ABM) เมื่อปี 2002 รัสเซียจึงถูกบังคับให้ตอบโต้ด้วยการสร้างระบบอาวุธใหม่เพื่อเอาชนะระบบป้องกันขีปนาวุธ
ตอนนี้ สหรัฐฯ ประกาศถอนตัวออกจากสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (INF) ด้วยการใช้ขีปนาวุธดังกล่าวในยุโรป ซึ่งรัสเซียเองจำเป็นต้องตอบโต้ ปูตินกล่าว
นอกจากนี้ ปูตินชี้ว่าชะตากรรมของอีกหนึ่งสนธิสัญญา ซึ่งก็คือสนธิสัญญาลดอาวุธโจมตีทางยุทธศาสตร์ (START) ที่จะหมดอายุลงในปี 2021 นั้นก็ยังคงเป็นปริศนา เพราะยังคงไม่มีการเจรจาใดๆ เกี่ยวกับเรื่องการขยายเวลาของสัญญา
ปูตินกล่าวว่า การนำนิวเคลียร์พลังงานต่ำมาประยุกต์ใช้ อาจก่อให้เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ในทั่วโลก ซึ่งอาจจะนำไปสู่ “จุดจบของทุกอารยธรรม หรือบางทีอาจจะเป็นจุดจบของดาวโลก”
“แต่ผมเชื่อว่ามนุษย์เรามีสามัญสำนึกและความรู้สึกด้านการปกป้องตัวเองมากพอที่จะยับยั้งไม่ให้เราก้าวไปถึงจุดจุดนั้น” เขากล่าว
ข้อมูลโดย China Xinhua News