Home ข่าวทั่วไปรอบวัน สมาคมนักข่าวช่างภาพอาชญากรรมประกาศ 11 ฉายาตำรวจปี 2561

สมาคมนักข่าวช่างภาพอาชญากรรมประกาศ 11 ฉายาตำรวจปี 2561

476
0
SHARE

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย โดย นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ พร้อมกรรมการบริหาร  และนักข่าวสายตระเวนข่าวอาชญากรรมพร้อมช่างภาพ  จากทุกสำนักสื่อ  มารวมตัวกันที่ วันที่ 23 ธ.ค. ที่ศูนย์ปฎิบัติการสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2561  ประกอบพิธีประกาศฉายาตำรวจประจำปี 32561  โดยนายไพโรจน์ กล่าวรายงานว่า

ผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรมได้ทำงานใกล้ชิดกับแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และติดตามผลการปฏิบัติงาน   ก่อนจะนำผลงานต่างๆ มาเสนอต่อสายตาประชาชนจนเป็นที่ยอมรับของสังคม   ตลอดเวลาที่ผ่านมา สื่อมวลชนได้ดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในรอบปี   สมาคมฯ จึงได้ร่วมกันตั้งฉายาตำรวจประจำปี  เกณฑ์ในการตั้งฉายาได้ประชุมร่วมกับผู้สื่อข่าวจากแขนงต่างๆ ที่เป็นตัวแทนจากสื่อมวลชนของสังกัดต่างๆ มีการเสนอชื่อนายตำรวจเข้ามาและทำการคัดเหลือทั้งหมด 11 นาย ประกอบด้วย

ลำดับที่ 1 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. คำนิยาม “ลูกผู้ชายที่ชื่อ แป๊ะ” ในปีนี้ผู้สื่อข่าวลงความเห็นว่าจะไม่มีการตั้งฉายาให้กับท่าน   แต่ได้เปลี่ยนเป็นการให้คำนิยามตามภาพที่แสดงให้เห็นแทน  เนื่องจากปีที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ทำงานและดูแลคดีใหญ่ๆด้วยตัวเองแทบทั้งสิ้น อีกทั้งยังร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นกันเองโดยไม่ถือตัวถือยศถือตำแหน่งจนทำให้ได้ใจลูกน้องไปเต็มๆเรียกได้ว่าไม่มีคำบรรยายใดๆจริง สำหรับ “ลูกผู้ชายที่ชื่อแป๊ะ”

ลำดับที่ 2 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ได้รับฉายา “ซานต้า อวบ” สืบเนื่องมาจากการลงพื้นที่แถลงข่าวและดูการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกๆพื้นที่มีผลงานการจับกุมคดีต่างๆ ทั้งเล็กทั้งใหญ่และทุกครั้งที่ลงพื้นที่ท่านไม่เคยทอดทิ้งผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำงานเหนื่อยแต่เพียงลำพัง โดยจะมีการมอบรางวัลให้กับชุดทำงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งไป จนเป็นที่มาของฉายา “ซานต้า อวบ ”

ลำดับที่ 3 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้รับฉายา “นายพล License” จากกรณีที่ท่านได้ลงพื้นที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เพื่อตรวจดูการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า  ขณะเดินตรวจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทางพล.ต.อ.ศรีวราห์ มีการสอบถามเจ้าหน้าที่  ที่กำลังทดสอบบินโดรน โดยมีการตั้งคำถามว่ามีใบอนุญาตหรือเปล่า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก   ต่อมาพล.ต.อ.ศรีวราห์ ก็ได้มีการชี้แจงว่าการบินโดรนต้องได้รับอนุญาตจาก  กสทช. เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำให้ถูกต้องเพื่อเป็นตัวอย่าง และหากนำโดรนหลายตัวไปบินโดยไม่ได้รับอนุญาต  หรือไม่มีการควบคุม อาจทำให้ขัดขวางการปฏิบัติงานส่วนอื่นเช่น การนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปบินค้นหาก็จะทำไม่ได้ จนเป็นที่มาของฉายา “นายพล License”

ลำดับที่ 4 พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ได้รับฉายา “นายพล ล้านวิว” ถือได้ว่าเป็นนายตำรวจน้ำดีอีกท่านหนึ่งที่มีประชาชนติดตามการทำงานเป็นจำนวนมาก มีผลงานปรากฏต่อสายตาประชาชนในการทำคดีต่างๆมากมาย โดยเฉพาะการลงพื้นที่ช่วยเหลือค้นหาทีม 13 หมูป่า ที่ถ้ำขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ซึ่งถือว่าเป็นนายพลตำรวจคนแรกที่ลงพื้นที่ นำทีมเดินค้นหาอยู่และนอนในป่าแบบเรียบง่าย อีกทั้งเป็นนายตำรวจที่มีสัจจะวาจา บวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าแม่ดอยนางนอน ที่คุ้มครองน้องๆ 13 คน จนปลอดภัย ซึ่งทำให้มีผู้ติดตามดูข่าวการทำงานของท่านผ่านทางโซเชียล เป็นจำนวนมากถึง 4 ล้าน 7 แสน คน เรียกได้ว่าเป็นนายตำรวจขวัญใจประชาชนอย่างแท้จริง จึงเป็นที่มาของฉายา “นายพล ล้านวิว”

ลำดับที่ 5 พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “เด่น ปักกลด” เนื่องจากตอนที่ท่านดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้จัดทำโครงการประชารัฐร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด (ปักกลด) โดยให้ตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ในหมู่บ้าน ชุมชนที่มียาเสพติดแพร่ระบาด แบบไปกินนอนในหมู่บ้าน ชุมชนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชนในเรื่องต่างๆ และแสวงหาความร่วมมือจากประชาชน และกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ปัญหายาเสพติดร่วมกัน อันจะก่อให้เกิดการพัฒนาเป็นชุมชนเข้มแข็งปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยโครงการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมีการนำเอาไปใช้ในหลายจังหวัด จนเป็นที่มาของฉายา “เด่น ปักกลด ”

ลำดับที่ 6 พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผบ.ตร. ได้รับฉายา “สวาทแคท ( S.W.A.T CAT)“ ครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ให้ความสนใจคดีคดีโจรผัวเมียอุ้มหมา อุ้มแมว ตระเวนลักทรัพย์ ไปหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่องนานกว่า 15 ปี ได้ทรัพย์สินไปกว่า 20 ล้านบาท สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนสุดท้ายก็สามารถตามจับตัวมาได้ทั้งสองคน รวมทั้งยังให้ความสำคัญหน่วย S.W.A.T ในสังกัด ส่งทีมไปแข่งขันและคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอง จึงเหมาะกับฉายา” สวาท แคท” (S.W.A.T CAT)

ลำดับที่ 7 พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้รับฉายา “นายพล ตีนตุ๊กแก” เรียกได้ว่ายึดตำแหน่งเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ทั้งๆที่ปีที่ผ่านมาในพื้นที่มีคดีอาชญากรรมใหญ่ๆเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชิงทรัพย์ร้านทอง ปล้นรถขนเงิน ตัดตู้เอทีเอ็ม ที่ยังจับไม่ได้ ยาเสพติด แต่ยังได้รับความไว้วางใจให้ดูแลพื้นที่ต่อจึงเป็นที่มาของ ฉายา “นายพล ตีนตุ๊กแก”

ลำดับที่ 8 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ได้รับฉายา “มือปราบดอกเบี้ยโหด” จากกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี ได้เล็งเห็นความเดือนร้อนของชาวบ้าน เกี่ยวกับเรื่องเงินกู้นอกระบบ จึงได้สั่งการให้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ลุย ปราบปรามแก๊งเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหด ได้อย่างจริงจังสามารถยึดโฉนดที่ดิน นำกลับมาคืนให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนกว่า 10,000 ฉบับ เนื้อที่รวมกว่า 3 หมื่นไร่ มูลค่ามากกว่า 13,000 ล้านบาท จนเป็นที่มาของฉายา “มือปราบดอกเบี้ยโหด”

ลำดับที่ 9 พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีต ผู้บังคับการภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับฉายา “ผู้การหวยเด้ง ” จากคดีแย่งสิทธิ์หวย 30 ล้านบาท ถึงแม้จะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี จากกรณีดังกล่าวทำให้พล.ต.ต.สุทธิ ที่ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการภูธรตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ในขณะนั้น ถูกหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในการทำคดีนี้ จนถูกคำสั่งให้พ้นจากการดำรงตำแหน่งผู้บังคับการภูธรจังหวัดกาญจนบุรี มาปฎิบัติงานที่ศปก.ตร. จนเป็นที่มาของฉายา “ผู้การหวยเด้ง”

ลำดับที่ 10 พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้รับฉายา “บิ๊กป๋อ สายโหด” เห็นบุคลิกท่านเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใสเรียบร้อย แต่หลังจากเข้ามารับตำแหน่งดูแลปราบปรามด้านยาเสพติดได้เพียง 3 เดือน ลูกน้องวิสามัญแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ไปแล้ว 2 ราย แถมขยายผลไปจับกุมคนร้ายและลุยยึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 180 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียงสั้นๆทำให้กลุ่มพวกค้ายาเสพติดหวาดกลัว จึงเป็นที่มาของ ฉายา “บิ๊ก ป๋อ สายโหด”

สุดท้ายลำดับที่ 11 พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. ได้รับฉายา “หลวงที่ถูกลืม” โดยพล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีชื่อเล่นว่า “หลวง” ซึ่งในปี 59 ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานความมั่นคง มีงานสำคัญ ได้แก่การดูแลความสงบเรียบร้อย การตัดสินคดีรับจำนำข้าว ที่มีอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลย แม้ว่าในวันตัดสินคดี อดีตนายกฯ จะไม่มาฟังคำพิพากษา แต่มีมวลชนมาให้กำลังใจมากถึง 3-4 พันคน ก็สามารถบริหารจัดการดูแลสถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และในปี 61 ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานป้องกันปราบปรามช่วงบอลโลกปราบปรามการพนันฟุตบอลโลก สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เป็นจำนวนมากอายัดเงินในบัญชีเจ้ามือ และผู้เล่น ได้มากกว่า 100 ล้านบาท ถือว่าเป็นนายตำรวจน้ำดี ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจและมีวิสัยทัศน์ในการทำงาน สามารถทำงานตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายได้สำเร็จลุล่วง อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อ ปี 59 ได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า “หลวงตามสั่ง” จาก 3 ปี ที่ผ่านมา เมื่อมีการพิจารณาแต่งตั้งยศที่สูงขึ้นพล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กลับไม่ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งจึงเป็นที่มาของฉายา “หลวงที่ถูกลืม”

matemnews.com 

23 ธันวาคม 2561