Home ไลฟ์สไตล์ By TipLife ไอเดียที่เปลี่ยนพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลก เริ่มจาก Walkman โดย Sony ในปี 1950 !!

ไอเดียที่เปลี่ยนพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลก เริ่มจาก Walkman โดย Sony ในปี 1950 !!

790
0
SHARE

มาเต็มนิวส์ ขอย้อนไปยังโลกในสมัยที่ยังไม่มีเครื่องฟังเพลงพกพามาก่อน ไม่มีอินเทอร์เน็ตที่ทั่วถึง ไม่มีระบบสตรีมมิ่งเพลง การที่คนธรรมดาๆทั่วไป จะหาเพลงฟังได้ คือการเปิดวิทยุทรานซิสเตอร์ หมุนหาคลื่นที่ถูกใจและฟังไปตามโปรแกรมที่สถานีจัดไว้เท่านั้น 

แต่ถ้ามีเงินหน่อย ก็ซื้อเทปเพลงของศิลปินที่ชื่นชอบ เปิดกับเครื่องเล่นเทปฟังวนซ้ำๆ ได้ไม่มีเบื่อ ยังไม่รวมการกรอหมุนเทปเพื่อข้ามเพลง

แต่ถ้ามองกลับไปในยุคนั้น หากใครใส่หูฟัง ฟังเพลงเดินบนท้องถนน จะดูเป็นคนเพี้ยนในสายตาคนอื่นทันที เนื่องจากเทคโนโลยีเครื่องฟังเพลงพกพายังใหม่มาก และหูฟังส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเก็บเสียงได้ดี รวมไปถึงอินเนอร์กับเพลงที่กำลังฟังอยู่มันทำให้ผู้ฟังมันส์อยู่คนเดียว โดยคนรอบข้างไม่อาจรู้เลยว่า ฉันกำลังฟังเพลงอยู่ด้วยเครื่องเล่นเทป

และไอเดียที่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการฟังเพลงของคนทั้งโลก ไม่ใช่ iPod แต่เป็น Walkman จากบริษัท Sony ค่ะ

มันเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1950 วิทยุทรานซิสเตอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เรียกได้ว่า ‘ของมันต้องมี’ ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง ใครๆ ต่างก็ชอบฟังเพลงกันทั้งนั้น

แต่มันมีข้อจำกัดตรงที่ต้องฟังเพลงตามที่สถานีจัดรายการเอาไว้ พกไปไหนมาไหนลำบาก หรือไม่ก็เปิดวิทยุในรถยนต์แทน

ทำให้คุณ Masaru Ibuka ผู้หลงใหลในเสียงดนตรี เขาฟังเพลงแทบจะตลอดช่วงชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นเป็นในช่วงเวลาพักผ่อน เดินทาง หรือทำงานก็ตาม แต่มันขัดใจตรงที่เขาต้องพกเครื่องเล่นเทปใหญ่ๆ ติดตัวไประหว่างโดยสารเที่ยวบินยาวๆ

ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเหลือทนของเค้า จึงได้สั่งทางทีมวิศวกรแผนกเทปในยุคนั้น ที่ทำกำไรได้ตกต่ำและส่อแววจะถูกยุบ ไปพัฒนาและสร้างเครื่องเล่นเทปที่เล็กพอเหมาะกับการพกพาไปไหนต่อไหนได้ พร้อมกับสามารถเลือกฟังเพลงตามที่ผู้ใช้ต้องการได้

ด้าน Akio Morita ผู้ร่วมก่อตั้ง Sony อีกคนก็เห็นดีเห็นงามกับไอเดียนี้ด้วย จึงทำการขีดเส้นตายให้กับแผนกเทปในการสร้างนวัตกรรมใหม่ก่อนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 1979

อันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทำการตลาดเครื่องเล่นเพลงพกพา เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่จะออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน ทั้งออกกำลังกลายและพักผ่อนหย่อนใจ

ด้วยโจทย์และกรอบเวลาที่จำกัด Kozo Ohsone และ Shizuo Takashino พร้อมกับทีมงานในแผนกจึงได้นำ Pressman เครื่องบันทึกเทปของสายนักข่าวมาต่อยอด ตัดฟังก์ชั่นการอัดเสียงออกไป เพิ่มชุดหูฟังน้ำหนักเบา พร้อมกับตัวขยายเสียงระบบสเตอริโอเข้าไปแทน

เมื่อ Morita ได้ลองใช้งานเครื่อง Pressman เวอร์ชั่นดังแปลงแล้ว เขารู้สึกถูกชะตากับมันในทันที เพราะนี่คือสิ่งที่ตรงกับความต้องการของ Ibuka ยกเว้นอย่างเดียวไม่ถูกใจภรรยาของ Ibuka เนื่องจากจะเป็นเครื่องที่ทำให้ผู้ใช้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

เพื่อไม่ให้ถูกมองเป็นอุปกรณ์ที่ดูเลวร้ายเกินไป ทางทีมงานจึงเพิ่มแจ็คหูฟังรูที่สอง และปุ่มสีส้มเพื่อให้ผู้ใช้สองคนฟังเพลงร่วมกันในเครื่องเดียวได้ และพูดคุยกันได้ผ่านไมโครโฟน

ตำนาน Walkman รุ่นแรกมาในชื่อรหัส TPS-L2 เครื่องเล่นเทปที่ออกแบบให้คล้ายกับกล่องเคลือบแบบญี่ปุ่น และชื่อ Walkman ก็ได้มากจากชื่อของเครื่อง Pressman กับ Superman ฉบับภาพยนตร์ในปี 1978 ที่โด่งดังมากๆ ในยุคนั้น

อีกทั้งชื่อ Walkman เป็นชื่อที่ถูกตั้งเพื่อบอกใบ้เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ อันเป็นไอเดียสะท้อนถึงการเดิน การพกพาไปไหนมาไหน ฉีกกฎข้อจำกัดของการฟังเพลงอยู่กับที่ดั่งใจต้องการ

ในการเปิดตัว Sony ได้เชิญนักข่าวมาอยู่ท่ามกลางสวนสาธารณะโยโยงิ กรุงโตเกียว ในวันที่ 22 มิถุนายน 1979

จากนั้นพวกเขาก็ให้นักข่าวฟังเทปแถลงเปิดตัวผ่านเครื่องรุ่นแรก พร้อมกับการสาธิตกลางแจ้ง ให้พนักงานเดินไปมาหรือแม้แต่ขี่จักรยานก็ยังมี

แต่นักข่าวกลับไม่เห็นด้วยว่าเครื่องเล่นเพลงพกพานี้จะดังเปรี้ยงได้ เพราะไม่มีฟังก์ชั่นการอัดเสียง จึงทำให้นักข่าวมองข้ามมันไป

เดือนกรกฎาคมปี 1979 เครื่อง Walkman วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ด้วยยอดขายเพียง 3,000 เครื่องเท่านั้น เพื่อไม่ให้ย่ำแย่ไปกว่านี้ ฝ่ายการตลาดของ Sony จึงแก้ปัญหาด้วยแผนเชิงรุก

พวกเขาจ้างดาราดังๆ มาถ่ายโฆษณา ให้พนักงานบริษัทลองเอาไปใช้จริงๆ ทั้งบนรถไฟและเดินเปิดเพลงผ่านย่านที่มีคนเยอะในช่วงสุดสัปดาห์ เพิ่มชุดหูฟังให้ลูกค้าได้ลองฟังเพื่อประสบการณ์ที่ดีต่อสินค้าโดยตรง พร้อมกับราคาที่คนทั่วไปเอื้อมถึงได้

ไม่มีการสร้างสโลแกนใดๆ ให้กับ Walkman เพราะชื่อของมันจะต้องสัมผัสด้วยตัวเองจริงๆ ถึงจะรับรู้ได้ว่ามันถูกสร้างมาเพื่อจุดประสงค์ใด

และแผนการตลาดเชิงรุกของ Sony ก็ประสบความสำเร็จ ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกันยอดขายก็เพิ่มขึ้น 27,000 เครื่อง

กลายเป็นยอดจำหน่าย 30,000 เครื่องครั้งแรกในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ซื้อเครื่อง Walkman กลับไปใช้ที่บ้านเกิดด้วย

จึงทำให้ Sony มองเห็นช่องทางขยายตลาดส่งออกไปขายทั่วโลกในช่วงปี 1980 และถูกเปลี่ยนชื่อเรียกให้เหมาะกับท้องถิ่นเป็น Sound-About ในสหรัฐฯ Stowaway ในอังกฤษ และ Freestyleในสวีเดน

ซึ่งแน่นอนว่าก็กลายมาเป็นอุปกรณ์ยอดฮิตไปในเวลาอันรวดเร็ว แม้จะมีการเปลี่ยนชื่อเครื่องแต่ชื่อของ Walkman ก็ยังคงเป็นที่จดจำของคนทั่วโลกอยู่ดี

ในปี 1980 นี้ ทาง Sony ได้ส่งเครื่อง Walkman ออกไปขายกว่า 500,000 เครื่อง และเพิ่มเป็นสามเท่าในปี 1981 พอเข้าสู่ปี 1983 บริษัทก็ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ WM-10 ที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นแรก พัฒนาหูฟังให้เสียงรอบข้างเล็ดลอดเข้าไปได้เพื่อความปลอดภัยของผู้ฟัง

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะไม่ค่อยมีใครได้ใช้เครื่องเล่น Walkman อีกต่อไปแล้ว แต่ด้วยไอเดียและนวัตกรรมของ Walkman ที่เปลี่ยนพฤติกรรมของคนฟังเพลง ให้สามารถฟังเพลงที่ไหนก็ได้ตามใจต้องการ นับว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้อย่างเหลือเชื่อ

 

 

ที่มา: thoughtco, nytimes, history, soundfly, theverge, time, adweek, medium, mentalfloss และ catdumb