Home ข่าวทั่วไปรอบวัน “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” นั่งหัวโต๊ะ ไม่ยกเลิก 13 คำขอจดสิทธิ์บัตรกัญชา โยนให้ภาคประชาสังคมไปหารือทางออก

“สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” นั่งหัวโต๊ะ ไม่ยกเลิก 13 คำขอจดสิทธิ์บัตรกัญชา โยนให้ภาคประชาสังคมไปหารือทางออก

706
0
SHARE

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมร่วมกับ   ผู้แทนภาคประชาสังคมที่มีความเห็นต่างเรื่องการจดสิทธิบัตรกัญชา ที่กระทรวงพาณิชย์  เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2562  เลิกประชุมแล้ว  แถลงแก่ผู้สื่อข่าว ว่า

“ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางในประเด็นการจดสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชา   และสิทธิบัตรที่มีสารสกัดจากกัญชาเป็นองค์ประกอบที่มีอยู่จำนวน 13 คำขอ รวมถึงขั้นตอนทางกฎหมายที่ดำเนินการในปัจจุบัน โดยได้ข้อสรุป   ให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา   และภาคประชาสังคมไปหารือกัน  และทำงานร่วมกัน รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลที่แต่ละฝ่ายมี เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์สูงสุดในการแก้ไขปัญหาการจดสิทธิบัตรกัญชาที่ทุกฝ่ายพอใจ   ในการประชุมครั้งนี้ยังไม่มีข้อยุติเรื่องการจดสิทธิบัตรกัญชา  แต่ได้ขอให้ทุกฝ่ายไปพูดคุยกันต่อ เฉพาะ 13 คำขอที่ยังเป็นปัญหา  เพราะตอนนี้  2 ฝ่ายมองข้อกฎหมาย ตีความกฎหมายแตกต่างกัน  ก็ให้ไปหาทางออกร่วมกันว่าจะทำยังไง วิธีการไหน โดยให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด ส่วนจะยกเลิกคำขอหรือไม่ หรือจะมีทางออกแบบไหน อยู่ที่การหารือ เพราะตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าคำขอแต่ละรายการอยู่ในขั้นตอนไหน และยืนยันว่าการหาทางออกแบบนี้ไม่ใช่การถ่วงเวลา เพราะถ้าต้องการถ่วงเวลาคงไม่เชิญทุกฝ่ายมาหารือและคงไม่เรียกประชุมในครั้งนี้ 

สำหรับอีก 20 คำขอจดสิทธิบัตรที่ไม่มีสารสกัดจากกัญชาเป็นองค์ประกอบ  แต่เป็นสารสังเคราะห์  และมีโครงสร้างคล้ายกัญชา ในที่ประชุมไม่มีใครติดใจ และไม่มีปัญหาในการเข้ามายื่นจดสิทธิบัตรของต่างชาติ”

ขณะที่  นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต แถลงข่าว  ว่า

“ภาคประชาสังคมต้องการให้กรมทรัพย์สินทางปัญญายกเลิกคำขอจดสิทธิบัตร 13 คำขอในทันที  และดำเนินการโดยไม่มีเงื่อนไข เพราะเป็นคำขอที่ขัดต่อ พ.ร.บ.สิทธิบัตร มาตรา 5 มาตรา 9 (1) (4) (5) ขัดต่อศีลธรรม เพราะกัญชายังเป็นยาเสพติด และหากรับจดสิทธิบัตรจะเกิดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างต่างชาติกับคนไทย   ทางออก คือ ต้องยกเลิกเท่านั้น และจะให้เวลาพิจารณาในเรื่องนี้ภายใน 7 วันต้องมีคำตอบออกมา ไม่ควรจะใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี 13 คำขอต้องยกเลิก ถ้าไม่ยกเลิกภายใน 7 วันได้เตรียมการฟ้องร้องไว้แล้ว จะไปฟ้องต่อศาลปกครอง หรือศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เพื่อให้เพิกถอนคำขอจดสิทธิบัตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากที่ก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ให้เอาผิดอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ยกเลิกคำขอจดสิทธิบัตรมาแล้ว  ภาคประชาสังคมยังคงยืนยันว่ากรมทรัพย์สินทางปัญญาจะมาอ้างว่าไม่สามารถยกเลิกคำขอจดสิทธิบัตรได้ในทันที เพราะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายไม่ได้   เนื่องจากคำขอจดสิทธิบัตรทั้ง 13 คำขอดังกล่าวไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้น ทั้งขัด พ.ร.บ.สิทธิบัตร ผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ และขัดรัฐธรรมนูญในเรื่องความไม่เสมอภาคในการจดสิทธิบัตร จึงทำได้เพียงอย่างเดียว คือ ยกเลิกคำขอทั้งหมด”

matemnews.com 

11 มกราคม 2562