รอในห้องสีม่วงตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลจนเลยเวลา 16.30 น.หมดเวลาราชการแล้ว4 แกนนำพรรคพลังประชารัฐ
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค
นายสนธิรัตน์ รุจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค
จึงเริ่มกระบวนการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ยินยอมให้ใช้ชื่อเป็นายกรัฐมนตรีของพรรคในการเลือกตั้ง24 มี.ค.2562
พล.อ.ประยุทธ์ เดินมามาจากห้องทำงานชั้น 2 ยิ้มกริ่มและทันทีที่เจอคณะนักข่าวได้กล่าวแก่ตัวแทนพรรคทั้ง 4 ว่า
“วันนี้ท่าทางเป็นนักการเมืองกันเต็มตัวเลยนะดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากวันนั้นที่มาลาออก และในการประชุม ครม.ก็หายกันไป 4 คน ก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะทำงานร่วมกันมาตลอด และพวกท่านก็รู้ว่าจากนี้ต้องทำอย่างไร และวันนี้ก็ไปทำงานการเมืองกันแล้ว ก็ต้องทำกันเอง ในส่วนของรัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่รัฐบาลแยกส่วนกันให้ได้ ผมพร้อมจะพบปะพูดคุยไม่ว่าจะพรรคการเมืองใดก็ตาม อะไรคุยกันได้อะไรคุยกันไม่ได้ ก็อยากจะขอร้องทุกพรรค ถ้าต่างคนต่างพูดกันออกมามันก็จะเกิดความไขว้เขวกันไปหมด ปัญหาก็จะตามมา แล้วรัฐบาลหน้าก็จะเกิดปัญหาอีก ทำงานกันไม่ได้ ผมก็ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก ผมคาดหวังทุกพรรคการเมืองในเรื่องการสร้างความปรองดอง เป็นพรรคแห่งความสมานฉันท์และความสามัคคี ทุกคนก็สามารถพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐได้ การหาเสียงก็ขอระวังกันหน่อย เพราะพวกท่านเป็นรัฐบาลมาก่อน มันอาจจะกระทบกระทั่งกันได้ ก็ขอให้พยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ต้องช่วยกันทำให้ทุกอย่างดีขึ้นในอนาคต เราต้องรู้ว่าวันนี้บ้านเมืองเราอยู่ตรงไหนและควรเดินไปทิศทางใด ต้องช่วยแก้ไขกัน รัฐบาลทำคนเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกันคิดและหาวิธีการที่เหมาะสม อย่าไปบอกว่าทำอย่างนี้ได้เลยมันอันตราย การแก้ไขปัญหาเราจะทำทีเดียวไม่ได้มันต้องดูในภาพรวม ผมพูดไปเสียนาน มาทำอะไรกัน คุยซะเพลิน”
นายอุตตม ได้ยื่นหนังสือนโยบายพรรคพลังประชารัฐเล่มหนา ให้พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมกล่าวว่า
มีนโยบายเป็นรูปธรรมมากกว่า และมีเรื่องการปฏิรูปด้วย ในนามของพรรคพลังประชารัฐ อยากเชิญท่านนายกฯ และขอเสนอนโยบายของพรรคให้ท่านได้พิจารณา”
พล.อ.ประยุทธ์ รับหนังสือมาเปิดดู แล้วถามว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐได้คุยกับพรรคอื่นๆบ้างหรือไม่ เขาทำแบบที่พรรคพลังประชารัฐทำหรือเปล่า นายสุวิทย์ ตอบว่า วันนี้ยังไม่ได้เริ่ม แต่มีแนวคิด
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า นโยบายของพรรคพลังประชารัฐเป็นรูปธรรมที่สุดและคิดว่าตรงกับสิ่งที่นายกฯคิด จึงได้มาเชิญ
พล.อ.ประยุทธ์ ถามทั้ง 4 คนว่า “มั่นใจแล้วนะ” 4 คนตอบว่า”มั่นใจ” พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นว่า
“ตื้นตัน ขอบคุณทุกคน กก.บห.และสมาชิกพรรคที่ให้เกียรติ ผมจะรับไว้พิจารณา และยังมีเวลาอีกหลายวัน อยู่ได้ถึงวันที่ 8 ก.พ.ใช่ไหม ถ้าผมตัดสินใจอย่างไรจะตอบกลับไป ขณะเดียวกันหลายพรรคก็มีการพูดจา ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคน ใครจะมาพบตนก็อนุญาตให้พบได้ ขอบคุณ
จากนั้น เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้ขอให้สื่อมวลชนออกจากห้อง ทั้ง 5 คน อยู่คุยกันต่อ จนเวลา 17.18 น. พล.อ.ประยุทธ์ กลับบ้าน 4 พปชร.ออกมายืนแถลงข่าว
นักข่าวถามมีความเห็นอย่างไรต่อ เสียงท้วงติงที่นายกฯใช้สถานที่ราชการต้อนรับ พปชร.ทั้ง 4 คนนั้น นายอุตตม ตอบ
เราได้ประสานกับคณะทำงานของนายกฯและได้รับแจ้งให้เข้าพบเพื่อเทียบเชิญในที่สถานที่ทำงาน หลังเวลาราชการ นายกยังได้ฝากบอก ว่าพร้อมต้อนรับทุกพรรค ไม่ได้เจาะจงพรรคใดพรรคหนึ่ง พรรคการเมืองใดมีความประสงค์จะมาพบเพื่อเทียบเชิญ นายกฯพร้อมต้อนรับ เช่นเดียวกับพรรคเรา
นักข่าวถามว่า เหตุใดจึงคิดว่าชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จะขายได้ นายสนธิรัตน์ ตอบ
การเสนอผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเรื่องหนึ่งของพรรค เราต้องดูว่าบุคคลผู้นั้น เหมาะสมกับบริบทการเมืองปัจจุบันหรือไม่ มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับของประชาชน ได้รับศรัทธาจากประชาชน และมีความซื่อสัตย์สุจริตที่พิสูจน์ได้หรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ มีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน
matemnews.com
1 กุมภาพันธ์ 2562