นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อบ่ายวันที่ 10ก.พ.2562 ว่า ในวันพรุ่งนี้ 11 ก.พ.2562 เวลา 13.00 น. จะไปที่สำนักงาน กกต. ถนนแจ้งวัฒนะ ยื่นเอกสารขอให้ กกต.พิจารณาไม่ประกาศรายชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อในบัญชีชื่อนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพราะขาดคุณสมบัติ โดย พปชร.เสนอ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ของพรรคฯ จึงต้องยื่นเอกสารตามที่กกต. กำหนด 2 แบบ คือ
แบบ ส.ส. 4/29 ที่หัวหน้าพรรคต้องลงนามรับรองว่า การคัดเลือกได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองและข้อบังคับของพรรคการเมือง และ แบบ ส.ส. 4/30 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ฯ ต้องลงนามรับรองว่า เป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นนายกฯ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
จากที่ตรวจสอบข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อ 91 วงเล็บ 1 พบว่า การเสนอชื่อบุคคลใด บุคคลนั้น ต้องให้มีหนังสือยินยอมก่อน
ข้อ 91 วรรคสอง ระบุไว้ว่า การเสนอชื่อบุคคลใดที่มิได้เป็นไปตามวรรคหนึ่งให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น
จึงเห็นได้ว่า พปชร. พิจารณาคัดเลือก พล.อ.ประยุทธ์ฯ ไปก่อนที่จะมีหนังสือยินยอมจาก พล.อ.ประยุทธ์
โดยที่ประชุม พปชร. เห็นชอบเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ วันที่ 30 ม.ค. 2562 จากนั้นวันที่ 8 ก.พ. 2562 พลเอกประยุทธ์ฯ จึงมีหนังสือยินยอมและตอบรับการเสนอชื่อ จึงไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อ 91 วรรคสอง
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ฯ ยังอาจเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นนายกฯ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) (12) และ (15) อีกด้วย
เนื่องจากมาตรา 98 (3) ห้ามเป็นเจ้าของสื่อมวลชนใด ๆ แต่พลเอกประยุทธ์ฯ ถูกร้องว่า เป็นเจ้าของสื่อออนไลน์หลายชนิด
มีฐานะเป็นหัวหน้า คสช. ที่มีอำนาจตามมาตรา 44 และได้รับเงินตอบแทนอีกเดือนละ 125,590 บาท จึงอาจเข้าลักษณะเป็นข้าราชการ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ตามความในมาตรา 98 (12) และ (15) อีกด้วย
จึงขอให้ กกต. พิจารณาไม่ประกาศรายชื่อพลเอกประยุทธ์ฯ ตามแบบ ส.ส. 4/31 เนื่องจากไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค และเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) (12) และ (15) ซึ่งโดยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 89 วรรคสอง ให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น
matemnews.com
10 กุมภาพันธ์ 2562