Home ข่าวทั่วไปรอบวัน รองนายกฯวิษณุสะกิดพรรคการเมืองขายฝันกัญชาเสรี

รองนายกฯวิษณุสะกิดพรรคการเมืองขายฝันกัญชาเสรี

605
0
SHARE

นักข่าวสัมภาษณ์  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อบ่าย 21 ก.พ.2562   ประเด็นบางพรรคการเมืองชูนโยบายปลูกกัญชาเสรี ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทั้งๆที่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่7) พ.ศ.2562 มีผลวันที่ 19 ก.พ.2562 ให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์และงานวิจัยเท่านั้น  ตอบว่า

“โดยกฎหมายฉบับนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะต้องมีหลักเกณฑ์ออกมาว่า  กัญชาชนิดใดใช้ได้ ไม่ใช่ว่ากัญชาอะไรก็ได้สารพัดชนิด  นายกรัฐมนตรีได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วว่า  ให้เร่งรัดกฎกระทรวงออกมาโดยเร็ว ก็เชื่อว่าน่าจะออกมาได้เร็ว ส่วนที่มีการนำไปชูเป็นนโยบายในการหาเสียง อันนั้นเกินเลยจากกฎหมายไป  ก็ต้องไปแก้กฎหมายมาใหม่ เพราะภายใต้พระราชบัญญัติที่ออกมาล่าสุดนี้  ไม่ได้ไปไกลถึงขนาดนั้น เนื่องจากเดิมเรื่องนี้เป็นเรื่องผิดกฎหมายทั้งหมด  แต่ครั้งนี้อนุญาตให้นำมาแปรรูปเป็นน้ำมัน เป็นยาได้ ภายใต้หลักเกณฑ์วิธีการที่กฎหมายกำหนด  กระทรวงสาธารณสุขจะต้องออกระเบียบ  หรือออกประกาศกระทรวงมา ส่วนที่จะไปโฆษณาว่าส่งเสริมปลูกกัญชาเสรีทั่วไป   ที่ไหนมีที่ว่างปลูกหน้าบ้านหลังบ้านได้เลย  กฎหมายยังไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น และกฎกระทรวงก็จะออกมาให้อย่างนั้นไม่ได้เช่นกัน   ถ้าจะเอาอย่างนั้นก็ต้องไปออกกฏหมายใหม่อีกฉบับ  และเท่าที่แพทย์ได้มาอธิบายให้คณะรัฐมนตรีฟังระบุว่า   กัญชาที่จะนำเอาไปสกัดเป็นน้ำมันหรือยาก็ไม่ใช่ว่าเป็นกัญชาชนิดใดก็ได้  เพราะกัญชาบางอย่างสกัดออกมาไม่ได้  และเป็นโทษมากกว่าเป็นคุณ  จะต้องเป็นกัญชาที่ปลอดสารพิษ ปลอดสารเคมี  และในรัศมีที่ปลูกโดยรอบนั้นจะต้องไม่มีการใช้สารพิษด้วยเช่นกัน  เพราะไม่เช่นนั้นจะทำลายคุณภาพยาที่อยู่ในตัว  ไม่ใช่ว่าจะมาปลูกกันได้สะเปะสะปะ   ที่ปลูกอย่างนี้คือเอาไปเสพ  เอาไปสูบ  ตรงนั้นกฎหมายก็ยังเอาผิดอยู่”

นักข่าวถาม   พรรคการเมืองนำไปชูเป็นนโยบายหาเสียงให้ปลูกเสรี ถือว่าขัดต่อต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายวิษณุ ตอบ

“ไม่ เพราะหากคิดที่จะไปไกลถึงขั้นแก้กฎหมายก็แล้วแต่พรรคการเมืองนั้นๆ เหมือนกับที่มีการหาเสียง  โดยอ้างว่าถ้าเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะยกเลิกกฎหมายนั้น กฎหมายนี้ เขาก็มีสิทธิ์พูด เพียงแต่ทำไม่ได้ทันที แล้วเมื่อถึงเวลาจะทำได้หรือไม่ได้ ก็คงมาเถียงกันอีกมาก  ถ้าไปถึงขั้นว่าจะให้เสรี   ผมคิดว่าคงเถียงกันอีกเยอะ แต่ทุกพรรคมีสิทธิที่จะพูดได้ เช่น ถ้าบอกว่าวันนี้กฎหมายห้าม  แล้วถ้าผมเป็นรัฐบาลผมจะยกเลิก อย่างนี้มีสิทธิพูดทั้งนั้น แต่ส่วนควรหรือไม่ควรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง   ถือเป็นวิจารณญาณของผู้ฟัง บางคนบอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญเขาก็ยังพูดได้ ไม่แปลกอะไร เป็นเรื่องธรรมดา เราเองก็อยากให้แต่ละพรรคพูดเพื่อที่จะได้เห็นความแตกต่างในนโยบาย ส่วนประชาชนผู้ฟังก็ต้องใช้วิจารณญาณอย่างมาก  เพราะบางเรื่องเป็นการพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ บางเรื่องพูดในสิ่งที่ไม่สมควร บางเรื่องพูดในสิ่งที่ยังไม่รู้ว่าจะปฏิบัติอย่างไร เช่น จะเอาเงินมาจากไหน จะเอาคนมาจากไหน จะเอากฎหมายหรืออำนาจมาจากไหน จะเอาเทคโนโลยีมาจากไหน เพราะฉะนั้นคนฟังต้องฟังให้ดีไม่ใช่เอาเฮๆ  แค่นั่งเมล์เห็นป้ายสองข้างทาง แล้วรู้สึกประทับใจก็สามารถให้คะแนนไปได้   แต่ฟังแล้วก็ต้องรู้เท่าทัน ในใจต้องบวกลบคูณหารเอาไว้หน่อยว่าแล้วจริงๆเขาทำได้หรือไม่ แต่ละคนอายุปูนนี้ ผ่านการเลือกตั้งกันมาหลายครั้ง แล้วเห็นการหาเสียงลมๆแล้งๆ   เป็นไปไม่ได้ก็เห็นกันมาแล้วหลายเรื่อง และบางครั้งตั้งใจทำจริง  แต่เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลผสมแล้ว เสียงมาแพ้พรรคใหญ่  ก็ไม่สามารถนำเรื่องนั้นมาเป็นนโยบายรัฐบาลได้”

นักข่าวถาม ถือเป็นการขายฝันหรือไม่ นายวิษณุ ตอบ

“ ก็อยากให้ขาย เพราะไม่เช่นนั้นเขาจะเอาเรื่องอะไรมาพูด ทุกพรรคพูดเพื่อหาสมาชิก แต่คนฟังก็ต้องเข้าใจ และแยกแยะ พรรคการเมืองก็ต้องรับผิดชอบในเงื่อนไขว่าได้คะแนนเสียงมาก  ได้เป็นรัฐบาลแล้วผลักดันเรื่องนั้นๆไปเป็นนโยบายของรัฐบาล ถ้าเป็นถึงขั้นนั้นได้แล้วยังไม่ทำอะไรอีกก็ถือว่าแย่มาก”

matemnews.com 

21 กุมภาพันธุ์ 2562