เมื่อวันที่ 28 ก.พ. มีรายงานว่า กัปตันหนุ่มใหญ่ การบินไทย เลือดร้อน ตบหัวสจ๊วต พนักงานต้อนรับและให้บริการบนเครื่องบิน เนื่องจากไม่พอใจที่ไม่ให้บริการตัวเอง เป็นเหตุให้สจ๊วตบุกแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เอาผิด กัปตันคนดังกล่าว เหตุการณ์อื้อฉาวที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในหมู่ลูกเรือ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) อยู่ในขณะนี้นั้น
ผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเที่ยวบิน ทีจี110 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ หลังจากที่กัปตันนำเครื่องบินทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าจ.เชียงใหม่ เมื่อเดินทางถึงปลายทาง เครื่องลงจอด กัปตันเที่ยวบินทีจี 110 ได้ตบหัวและกระชากคอสจ๊วต
พร้อมกับพูดจาด่าทอลูกเรือคนดังกล่าวอย่างเสียๆหายๆ เนื่องจากหิว แต่ระหว่างทำการบินอยู่นั้น ไม่มีสจ๊วตและลูกเรือคนใดในเที่ยวบินทีจี 110 เข้าไปถามนักบินและตัวกัปตันว่า ต้องการรับประทานอะไรหรือไม่ระหว่างเที่ยวบิน
อย่างไรก็ตามเที่ยวบินเส้นทางบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ใช้เวลาเดินทาง หรือบินสั้นๆแค่ประมาณ 50 นาทีเท่านั้น ฝ่ายลูกเรือมองว่า ต้องให้บริการผู้โดยสารเต็มลำให้ได้รับบริการอย่างดีที่สุดเป็นลำดับแรก อีกทั้งมีจำนวนลูกเรือเพียงเท่าจำนวนประตูเครื่องบินเท่านั้น แต่กัปตันก็เรียกร้องให้บริการด้วย และเมื่อไม่พอใจก็ก่อเหตุทำร้ายร่างกายดังกล่าว จนเกิดเป็นคดีความขึ้นมา
ทั้งนี้สจ๊วต ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับกัปตันคนดังกล่าวไป แล้วเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แต่เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า จึงนำเรื่องมาเปิดเผย เนื่องจากที่ผ่านๆมานั้น เมื่อเกิดเรื่องระหว่างฝ่ายกัปตันและลูกเรือ มักจบลงโดยฝ่ายบริหารให้ความสำคัญกัปตันมากกว่าฝ่ายลูกเรือ
ขณะที่พ.ต.ท.ประสงค์ นาฝั้น พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวมีการเข้าแจ้งความจริง แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดใดๆ ได้ เพราะยังไม่สามารถติดต่อคู่กรณีอีกฝ่ายได้ เรื่องจึงยังเป็นการฟังความข้างเดียวจากฝ่ายสจ๊วต ข้อเท็จจริงอาจคาดเคลื่อนได้
ขณะนี้พยายามโทรศัพท์ติดต่อแล้วแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ เหมือนเครื่องปิด หรืออยู่ระหว่างบินหรือไม่ คงต้องรอเวลาในการติดต่อเพื่อความกระจ่างของข้อมูลต่อไป