นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แถลงข่าว 1 มี.ค.2562 ว่า ที่ประชุมบอร์ดการบินไทยเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 62 ในวันที่ 1 เม.ย.62 เพื่อขออนุมัติให้โอนทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 2,691 ล้านบาท และเงินสำรองที่เกิดจากส่วนล้ำมูลค่าหุ้นจำนวน 25,545 ล้านบาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมในงบการเงินเฉพาะกิจการจำนวน 28,000 ล้านบาทเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.61 โดยวิธีนี้จะส่งผลให้ผลขาดทุนสะสมของบริษัทลดเหลือ 296 ล้านบาท แต่จะไม่กระทบต่อส่วนผู้ถือหุ้น “แม้แต่บาทเดียว” ขณะเดียวกันถ้าบริษัทมีกำไรเกิน 300 ล้านบาท ก็จะทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ทันที
สำหรับปีงบประมาณ 61 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 11,569 ล้านบาท โดยปัญหาหลักของการบินไทยในขณะนี้คือ ฝูงบินเก่าและมีอายุการใช้งานสูง ส่งผลต่อการบำรุงรักษา การหมุนเวียนเครื่องบิน ประสิทธิภาพการบริการ และภาพลักษณ์องค์กร ซึ่งยากต่อการเพิ่มรายได้ ถ้าจัดหาฝูงบินใหม่ไม่ได้ การบินไทยก็ไม่หลุดพ้นจากวงจรนี้
ขณะนี้การบินไทยจึงอยู่ระหว่างผลักดันฝูงบิน 38 ลำในปีนี้และปีหน้า โดยตอนนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามขั้นตอนต่อไป ขณะเดียวกันจะหารือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. , บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และไทยกรุ๊ป เพื่อบูรณาการการทำงานและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ขณะเดียวกันกำลังพัฒนาโครงสร้างการบริการครบวงจรจากภาคพื้นสู่อากาศ (Ground to sky) เพื่อปรับปรุงบริการของสายการบินไทยให้ลื่นไหลสอดคล้อง ต่อเนื่องกัน และตรงกับความต้องการลูกค้า
นอกจากนี้ จะต้องบริหารความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมันทันที เพื่อลดความผันผวนและเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการอย่างชัดเจน แต่ยอมรับว่าถ้าหากราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ก็คงไปสะท้อนที่ราคาบัตรโดยสาร เนื่องจากไม่กระทบต่อ รวมถึงปรับมาตรฐานบัญชีใหม่เพื่อลดผลกระทบจากการด้อยค่าของเครื่องบิน เมื่อการบินไทยจะต้องปลดระวางเครื่องบิน ก็จะไม่กระทบรุนแรงเหมือนในอดีต
matemnews.com
1 มีนาคม 2562