วันที่ 10 มี.ค. ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง และ พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ธรัฐชา ถมปัทม์ พ.ต.อ.คณิต รัตนมณี ผกก.สภ.ปากพะยูน กำลังประชุมเพื่อเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าวบนห้องประชุมของ สภ.ปากพะยูน ก็ได้เกิดระเบิดลูกที่ 11 ขึ้นบริเวณกอต้นไม้ ริมถนนเทศบาล 4 เส้นทางไปสู่ รพ.ปากพะยูน และเทศบาลตำบลปากพะยูน
โดยจุดเกิดเหตุอยู่ติดกับรั้วกำแพงของ สภ.ปากพะยูน ซี่งเป็นจุดจอดรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลปากพะยูน แรงระเบิดทำให้รถดับเพลิงเทศบาลฯ ทะเบียน บน 585 พัทลุง ได้รับความเสียหาย กระจกรถด้านขวาแตกละเอียด กระจกด้านหน้ามีรูระเบิด 1 รู บนถนนเทศบาล เทศบาล 3 ติดกับกำแพงโรงพักฯ มีสะเก็ดระเบิดแบบแสวงเครื่องตกอยู่บนถนนดังกล่าว 2 ชิ้น นายศราวุธ ทัศนลีลพร นายกเทศมนตรีตำบลปากพะยูน เดินทางมาตรวจสอบความเสียหาย จากนั้นแม่ทัพภาค 4 ได้เดินทางมายัง สภ.ปากพะยูน ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตามจากเหตุระเบิดที่ จ.พัทลุง และสตูล ตลอดทั้งคืนทั้งวันที่ผ่านมา ทำให้หลายจังหวัดเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างเข้มงวด
จนท.ตำรวจหมวดเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดน 4101 ประจำด่านตรวจมลายูบางกอก ซึ่งเป็นด่านตรวจหลักขาเข้าเขตเมืองยะลา ได้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบบุคคล บัตรประชาชน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์ สิ่งของต้องสงสัย กระเป๋า ที่พกพา รวมทั้งบุคคลตามหมายจับคดีความมั่นคง ยานพาหนะเป้าหมายอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการก่อเหตุของคนร้าย สร้างความเชื่อมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน
พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จ.ยะลา เผยว่า ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัดเพิ่มความเข้มงวด เพิ่มความระมัดระวังในทุกจุดที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของกลุ่มคนร้าย ทั้งที่ตั้งสถานีตำรวจ แฟลต บ้านพัก ฐานปฎิบัติการ ด่าน ฉก.นปพ. จุดตรวจ จุดสกัด และให้มีความพร้อม มียุทธวิธีในการตอบโต้ได้ทันทีหากเกิดสถานการณ์
รวมทั้งให้ประสานกำลังสามฝ่าย และภาคประชาชน เข้าควบคุมพื้นที่ เส้นทาง จุดเสี่ยงเขตเมืองชุมชนให้ปลอดภัย และให้กำลังพลมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
ในส่วนของ จ.กระบี่ พล.ต.ต.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผบก.ภ.จ.กระบี่ ได้สั่งการไปยังผู้กำกับสถานีตำรวจทั้ง 15 แห่ง ใน 8 อำเภอ ของ จ.กระบี่ ให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบพื้นที่สำคัญ ที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของผู้ก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะตามสถานีตำรวจ, โรงเรียน, สถานที่ราชการ, แหล่งชุมชน, แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ โดยในส่วนของสถานีตำรวจ พบว่าหลายแห่งสั่งให้ตำรวจตรวจสอบรถต้องสงสัย ที่มาจอดทิ้งไว้นานผิดปกติ รวมทั้งบางจุดสั่งกั้นพื้นที่ห้ามนำรถเข้ามาจอด ยกเว้นผู้มาติดต่อราชการเท่านั้น
ขณะที่ ผวจ.นครศรีธรรมราช ออกประกาศเตือนสั่งทุกพื้นที่เฝ้าระวังหลังเกิดเหตุระเบิดหลายจุด โดยจะมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและอัคคีภัย รวมถึงจัดเวรยามรักษาความปลอดภัยตามสถานที่สำคัญต่างๆ อย่างรอบคอบและรัดกุม พร้อมจัดเตรียมแผนรองรับหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่มีประชาชนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอยู่รวมตัวกันจำนวนมาก