สองประเด็นที่อยู่ในกระแสสูงมากจากการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทาร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเปิดประชุม ครม.นอกสภานที่ที่นครราชสีมา 21-22 ส.ค.2560 ก็คือเรื่องที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าประชาชนว่า กฎหมายห้ามคนไทยมีกิ๊กกำลังจะออก และประเด็นชาติหน้าขอเกิดเป็นเจ้าชายกบ ซึ่งพล.อ.ประยุทธืได้นำเรื่องนี้มาตัดพ้อนักข่าวในระหว่างกล่าวในพิธีมองรางวัลอุตสาหกรรมปี 2560 ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก เมื่อตอนเช้าวันที่ 23 ส.ค.2560
“วันนี้ตื่นเช้ามารู้สึกเหนื่อยจากการลงพื้นที่ครม.สัญจร จังหวัดนครรราชสีมา 2 วัน แต่เมื่อได้มาเจอกับทุกคน ผมเองก็ยังมีแรงฮึดและต้องทำต่อไปจะเหนื่อยไม่ได้อยู่แล้ว การทำงานของรัฐบาลที่มีการตั้งคณะกรรมปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้าน ประชาชนยังไม่เข้าใจเพราะต้องใช้เวลา ขณะที่บางครั้งการสร้างความเข้าใจมีปัญหาเหมือนการลงพื้นที่นครราชสีมา ไปแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง และแผนพัฒนาภาคอีสาน และได้พูดไปมากมายหลายเรื่อง แต่สื่อกลับสนใจแค่ 2 เรื่อง คือ เรื่องกบกับกิ๊ก ที่ผมแค่เล่าให้ฟังและพูดกับชาวบ้าน เพื่อไม่มีเกิดความเบื่อหน่ายเท่านั้น ถามว่าหรือมีใครชอบกิ๊ก ทุกคนต้องไม่ชอบเพราะมีภรรยาอยู่แล้ว หากจะมีคนอื่นก็ขอให้นึกถึงภรรยาในช่วงที่จีบกันแรกๆด้วย ใครไม่แต่งงานที่รีบแต่งงาน …ใครไม่ยังไม่แต่งงานบ้างยกมือ …”
พูดแล้วพล.อ.ประยุทธื ก็หันไปทาง น.ส.เรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่นั่งอยู่แถวหน้า และพล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า
“ข้างหน้าไม่ต้องยก แต่ใครอยากดูแลให้มาติดต่อตน จะเป็นผู้ใหญ่ให้”
คนในห้องหัวเราตึง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า
“มีเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตผมจะส่งเรื่องให้กับศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติเข้าไปตรวจสอบทันที โดยมีองค์กรอิสระเข้าร่วมการตรวจสอบด้วย ส่วนหน่วยงานใดจะตรวจสอบกันภายในก็ให้ตรวจสอบไป ดังนั้นอย่าให้เกิดการทุจริตเด็ดขาด เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน เอาไปก็ใช้ไม่ได้ เพราะตายไปก็เอาไปแค่บาทเดียว”
แล้วพลอประยุทธท ได้ตั้งคำถรามนักธุรกิจที่อยู่ในห้องว่า
“ใครบอกว่าผมอยู่แล้วลงทุนไม่ได้ หรือใครคิดว่าผมอยู่แล้วทุจริตไม่ได้ รวมถึงหากคิดว่ามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หรือมีนักการเมืองเข้ามาแล้วจะดีขึ้น….ยกมือขึ้น”
ไม่มีใครยกมือมีแต่เสียงหัวเราะ พล.อ.ประยุทธืจึงกล่าวต่อว่า
“ก็ว่ากันไป เพราะผมเองไม่อยากยุ่งกับการเมือง”
แล้วพล.อ.ประยุทธ์ก็กล่าวถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ
“อยู่ระหว่างการแต่งตั้ง ขออย่าพูดว่ามีคนน้อยเพราะไม่รักผม เพราะมีคนสมัครจำนวนมาก แต่บางคนไม่อยากออกหน้า และไม่อยากวุ่นวาย เนื่องจากต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน ไม่อยากเปิดเผยให้เกิดความเสียหาย แม้ธุรกิจที่ทำจะถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ อย่าไปตีความว่าเป็นเพราะผมเป็นรัฐบาลอย่างนี้จึงไม่อยากมีคนช่วย คนช่วยน้อย แสดงว่า คสช.เริ่มถอยหลัง ไม่มีถอยหลัง มีแต่เดินหน้า คนเยอะแยะไป รายชื่อเป็นร้อย แต่เวลาคัดแล้วเหลือน้อย เพราะมีแต่คนอยากอยู่เบื้องหลัง ไม่ได้โม้ การปฏิรูป ยุทธศาสตร์ถ้าว่างผมอยากให้ดู เอกสารเต็มโต๊ะเลย ต้องเข้าใจปฏิรูปเป็นอย่างนี้ไม่ใช่สั่งเช้าได้เย็น เหมือนกินข้าวเช้าแล้วอิ่ม ทั้งหมดจะต้องโจทย์วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมีรัฐบาลเป็นผู้ปฏิบัติ หากไม่มีคณะแบบนี้ก็จะมีแต่รัฐบาลอย่างเดียว ขอให้เข้าใจรัฐบาลนี้รับฟังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รัฐบาลอื่นทำแบบไหนผมไม่รู้ และการปฏิบัติต้องมีการควบคุมอีก 5 ปี สอดคล้องกับแผนของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขออย่ามองว่าค่าใช้จ่ายมาก โดยเฉพาะค่าประชุม แต่คนเหล่านี้ก็ทำสำเร็จ เชื่อว่ารายได้ของประเทศจะสูงขึ้น ขออย่าคิดเรื่องต้นทุน ยกตัวอย่าง รถไฟที่คนขึ้นน้อยแล้วขาดทุน ซึ่งหากคิดแบบนี้เรียกว่า เด็กคิด เอาเงินไปซื้อขนม”
https://www.voicetv.co.th/blog/517042.html
Matemnews.com 23 ส.ค.2560