เช้าวันที่ 28 มี.ค. 62 พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ นำกำลังจนท.ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณเกาะทะลุ หมู่ 2 ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก หลังสืบทราบว่าเกาะดังกล่าว เป็น 1 ในเกาะที่อยู่ในเขตสัมปทานจัดเก็บรังนกอีแอ่น ซึ่งมีบริษัทเอกชนรายหนึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน จนท.สืบสวนทราบว่าอาจจะมีการซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมาย
จากการตรวจค้น พบบนเกาะมีการก่อสร้างเป็นเพิงที่พัก พบนายโชคณภัทร ขุนคำ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 10 ต.ป่าแฝก อ.แม่ใจ จ.พะเยา กับ นายกล้า (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาว จ.สตูล พักอาศัยอยู่ จนท.เข้าตรวจค้นพบกระสอบปุ๋ยต้องสงสัย เมื่อตรวจสอบภายในพบอุปกรณ์หลายรายการ อาทิ สายไฟ แบตเตอรี่ ตะปู อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขวดเครื่องดื่ม แกลลอนน้ำมัน และเชื้อปะทุ สำหรับใช้จุดระเบิด 1 ชิ้น ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมด เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับประกอบเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง ปลอกกระสุนปืนที่ยิงแล้วจำนวนหนึ่ง จึงตรวจยึด และนำตัวทั้ง 2 คน มาสอบสวนที่ สภ.อ่าวลึก เบื้องต้นทั้งคู่รับสารภาพว่ารับจ้างมาทำงานเพียงให้เฝ้าเกาะดังกล่าว ไม่ให้คนเข้ามาขโมยรังนก แต่ไม่รู้เห็นกับอุปกรณ์ดังกล่าว เบื้องต้น จนท.แจ้งข้อหา มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ปฏิบัติการตรวจค้นบนเกาะสัมปทานรังนก ครั้งนี้ เกิดขึ้นสืบเนื่องจากกรณีที่นายบุญรอด ทองดี นายสมชาย ทองดี และนายสมคิด ทองดี ชาวบ้าน ต.เขาทอง อ.เมืองกระบี่ อ้างว่าเข้าไปเก็บกล้วยไม้บนเกาะเหลาไป เขต จ.พังงา แล้วเกิดไปเหยียบระเบิด ทำให้นายบุญรอดเสียชีวิตทันที และนายสมชาย บาดเจ็บสาหัส เมื่อกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง จนท.ตรวจสอบแล้วพบว่าระเบิดดังกล่าว น่าจะเป็นของกลุ่มสัมปทานรังนกในเขตทะเลอันดามัน
ต่อมาทาง พล.ท.พูลศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพ ภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8 สั่งให้ตำรวจ จ.กระบี่ พร้อมด้วย จ.พังงา เข้าตรวจสอบเกาะในเขตสัมปทานรังนกทั้งหมด ที่อยู่ในเขต จ.กระบี่ และพังงา เนื่องจากสงสัยว่าอาจจะมีการซุกซ่อนวัตถุระเบิดไว้ตามเกาะต่างๆ โดย จนท.จะนำตัวทั้งคู่ไปสอบสวน เพื่อขยายผลไปถึงผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง รวมทั้งตรวจสอบของกลางทั้งหมด เพื่อหาความเชื่อมโยงไปยังคดีระเบิดบนเกาะเหลาไป จ.พังงา หรือไม่ รวมทั้งหาที่มาของอุปกรณ์ที่พบ ว่ากลุ่มสัมปทานรังนกนำอุปกรณ์เหล่านี้เข้ามาได้อย่างไร
