วานนี้ (31 มี.ค.62) พล.อ.ศิวะ ภระมรทัต ผู้บัญชาการกองกำลังจิตอาสา, นายวิจารย์ สิมะฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, นายอรรถพล ชันษา อธิบดีกรมป่าไม้, นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.เชียงใหม่ ประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จ.เชียงใหม่ ภายในอาคารเอสเอ็มอี ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา
ในที่ประชุมมีรายงานจุดฮอตสปอตที่ตรวจพบเพียงวันเดียว คือ วันที่ 31 มี.ค.62 ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือมีมากกว่า 1,151 จุด พบมากที่สุดที่ จ.แม่ฮ่องสอน 407 จุด รองลงมาคือ จ.เชียงใหม่ 193 จุด และ จ.เชียงราย 137 จุด นอกจากนี้ยังพบจุดฮอตสปอตอีกจำนวนมากที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน
นายวิจารย์ แถลงหลังประชุม ว่า ได้สั่งการให้ภาครัฐเร่งบูรณาการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า พร้อมสั่งการให้อธิบดีกรมป่าไม้และกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 2 พันนายเข้าพื้นที่เชียงใหม่ สนธิกำลังร่วมทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เร่งดับไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ให้ได้โดยเร็ว โดยเน้นจุดที่พบไฟป่ามากที่สุด คือที่ อ.สะเมิง และ อ.เชียงดาว รวมทั้งลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับชาวบ้าน และให้ใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่จุดไฟเผาป่า
ขณะเดียวกันกระทรวงฯ จะนำเฮลิคอปเตอร์บรรทุกน้ำเข้ามาสนับสนุนการดับไฟป่าในพื้นที่ที่เข้าถึงยากเป็นภูเขาสูงร่วมกับอากาศยานของกองทัพบกและกองทัพอากาศ รวมทั้งจะเปิดสายด่วน 1362 เพื่อรับแจ้งเหตุไฟไหม้ป่า หรือการเผาในที่โล่งแจ้งตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ปัญหาหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งปีนี้พบจุดฮอตสปอตจำนวนมาก กระทรวงฯ ได้ประสานงานโครงการตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยการแก้ไขปัญหาหมอกควัน มีหนังสือไปถึงประเทศเพื่อนบ้านขอให้งดเว้นการเผาในช่วงวิกฤตนี้แล้ว
ทางด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่าสาเหตุของไฟป่าที่เกิดขึ้นในประเทศ เกิดจากฝีมือของมนุษย์ 100% ทั้งการเข้าไปหาของป่าและล่าสัตว์ ที่ผ่านมาประชาชนกลับตำหนิแต่ส่วนราชการ จึงอยากขอให้ตำหนิคนจุดไฟเผาป่าด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างเต็มที่จนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพื่อดับไฟป่า และหลายคนก็ประสบอุบัติจนได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่รายงาน สถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ภาคเหนือ ของเวปไซด์
http://air4thai.pcd.go.th ของ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.62 เวลา 10.30 น. รายงานว่า คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 44 – 267 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) ที่ภาคเหนือเกือบทุกพื้นที่
http://air4thai.pcd.go.th/webV2/region.php?region=2
ภาพจาก FB กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช