เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่หลายคนคุ้นหน้า คุ้นตากันเป็นอย่างดี สำหรับ ปู โลกเบี้ยว ที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นหมอดู แต่ใครจะไปรู้ว่าในชีวิตจริงปูต้องเจอปัญหามากมายทั้งเรื่องความรักที่เคยจับได้ว่าแฟนแอบนอกใจ แถมน้องชายยังติดยาหนักจนเส้นเลือดในสมองแตก ล่าสุด ปู โลกเบี้ยว ได้มาเปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่อง ONE31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร
ทำไมถึงเรียกว่าปู โลกเบี้ยว?
ปู : เมื่อก่อนนี้ทำรายการแบบโลกเบี้ยว แล้วสมัยก่อนมีหลายปู นักข่าวก็เลยเรียกว่าปู โลกเบี้ยว
สมัยก่อนทุกคนจำพี่ได้ในฐานะของนักแสดง แต่ตอนนี้หลายคนจำพี่ได้ในฐานะหมอดู?
ปู : ก็ปี พ.ศ.2544 คุณ ภิญโญ รู้ธรรม ชวนไปเรียนโหราศาสตร์ คือพี่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เชื่อทั้งที่ตอนนี้ดูเองเป็น เรามีความรู้สึกว่าเราเป็นตัวเรา ตอนนั้นก็ไปเรียนค่าเรียน 20000 บาท แล้วต้องไปซื้อคอมพิวเตอร์มาใส่โปรแกรมอีกหลายหมื่น แล้วคนงกๆ อย่างพี่มีความรู้สึกว่าต้องเรียนให้จบ เรียนมันทุกศาสตร์ทุกวันนี้ก็เรียนอยู่ เพราะอาจารย์แต่ละคนสอนไม่เหมมือนกัน พี่ก็จะเรียนเอาทุกศาสตร์มาไว้ในสมองพี่
แล้วจริงไหมคนไม่ค่อยเห็นพี่บนหน้าจอทีวี เพราะคิดว่าพี่เป็นหมอดูเต็มตัว?
ปู : ก็มีนะ เพราะว่าเวลาคนโทรศัพท์มาเรื่องละคร เขาจะบอกว่า รับละครหรือเปล่า เราก็บอกว่ารับสิ เขาบอกว่าเห็นพี่เป็นหมอดูก็ไม่กล้า อะไรแบบนี้ เราก็บอกว่ามันไม่เกี่ยวกัน มันต้องแยกจากกัน บางคนก็บอกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเลย คือพี่อยู่รายการวิทยุตั้งแต่ ปี 47 ประมาณ 15 ปีแล้ว คนจะไม่ค่อยรู้เพราะพี่อยู่ในวงการลูกทุ่ง เมื่อก่อนพี่รู้ว่าอยู่วิทยุก็ดีนะไม่ต้องแต่งตัว ใช้เสียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันไม่ได้แล้ว มันมีกล้องนู้นนี่นั่น มีเฟซบุ๊กไลฟ์ด้วย
พี่ปูทำงานเยอะจังมีแฟนไหมเนี่ย?
ปู : มีสิ แต่ยังไม่แต่งงาน ไม่ชอบ พี่อาจจะไม่เหมือนคนอื่น พี่ไม่มีความคิดที่จะใส่ชุดเจ้าสาว พี่มีความรู้สึกว่าการที่เราจะอยู่กับใครสักคนมันไม่จำเป็นต้องเว่อร์วังอลังการ ซึ่งหลายคู่ที่จัดงานเว่อร์วังอลังการ แต่สุดท้ายก็ต้องเลิก
กับแฟนคนนี้พี่คบมากี่ปีแล้ว?
ปู : คบมาตั้งแต่ปี 41 ประมาณ 21 ปีแล้ว แต่ก็มีช่วงหนึ่งที่เขาแอบไปมีคนอื่น คือพี่ทำแต่งานซึ่งแฟนเก่าๆ ของพี่ก็เป็นแบบนี้ พี่ก็จำไว้เลยว่า อ่อ พอเวลาเรามีงาน เราบ้างาน แล้วเราลืมใส่ใจคนใกล้ตัว ทีนี้คนนี้เขาเข้าใจเรา ดูแลเราอย่างดี
ขอย้อนไปหน่อยจับได้ได้ยังไง?
ปู : คือตอนนั้นดูดวงไม่เป็น คือพี่โญเขาพาไปหาคนที่มีเซ้น อยู่ๆ เขาก็ถามว่าแฟนพี่แปลกๆ มั้ย แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยได้ใส่ใจเขาทำแต่งาน แล้วทำให้เราตอบสนองเขาไม่ได้ทำให้เขาไปมีคนอื่น เราก็บอกว่า เออ เขาแปลกๆ ปกติเขามาดูหนังกับเราแต่ทำไมเขาไม่มา พี่อยากรู้มั้ย 20:45 น. พี่จะเดินชนกับคนคนหนึ่ง แล้วพี่จะรู้เลย ซึ่งตอนนั้น 20:00 น. พี่อยู่บ้านพี่จิ้มที่บางกะปิ ขับรถอย่างเร็วกลับบ้านถึงประมาณ 20:40 น. ถึงสโมสรในหมู่บ้าน พี่ก็หาคนนั้น แฟนพี่ก็ถามว่าเป็นอะไร พี่ก็บอกว่า เป็นบ้า แต่พี่ก็หาไม่เจอ จนมีผู้หญิงคนหนึ่งนุ่งกระโจมอกกำลังเข้าซาวน่า พี่ก็คิดในใจว่าต้องคนนี้แน่เลย พี่ก็ใส่กระโจมอกเข้าไปคุยกับเขาในห้องซาวน่า เขาก็ยอมรับว่าเป็นแฟนกับบอมหรอ เขาก็บอกว่าใช่ พี่ก็บอกว่านั่นผัวพี่ เขาก็บอกว่า อุ้ยยย พี่ก็ถามว่าไปได้กันที่ไหน ได้กันที่เมืองทองใช่ไหม พี่ก็จี้ให้ยอมรับ เขาก็บอกว่าเขาจะถอย พี่ก็รีบเปลี่ยนผ้าออกมายืนหน้าสโมสร พอเขาเดินออกมา พี่ก็พูดว่า คนเราหน้าด้านจริงๆ เลย หาผัวไม่ได้ต้องมาแย่งผัวคนอื่น พี่ทำแบบนี้ 3 วัน เขาหายไปเลยพร้อมผัวพี่ แล้ว 7 วันพี่ก็นึกไม่กลับใช่มั้ยๆ โทรศัพท์ไปด่าแม่ ด่าพี่เขา เอาของมาเผา เออไม่กลับก็ไม่ต้องกลับ ซึ่งรูปถ่ายตั้งแต่คบมาเผาหมดเหลือรูปเดียว ทีนี้พอเขากลับมาพี่ไม่พูดสักคำจนถึงทุกวันนี้พี่ไม่เคยเล่าไม่เคยพูด แต่ถ้ามีคนถามพี่ก็เล่าแบบนี้แหละ ทุกคนก็จะสนุกเฮฮา แต่แฟนพี่ก็จะหงอยๆ พี่ไม่เคยพูด ไม่เคยว่าอะไรเลย เขาก็เลยอยู่จนถึงทุกวันนี้
ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่มีเรื่องพวกนี้อีกเลย?
ปู : ไม่รู้ เพราะพี่ไม่รับรู้ พี่ตัดเลยไง คือคุณอยู่กับฉันได้ คุณก็อยู่ไม่อยู่คุณก็ไป เพราะฉันไม่ได้พึ่งพาคุณ พี่คิดแบบนี้ เขาก็อยู่กับพี่มาตลอด ทำทุกอย่าง อยู่ดูแลเรา แล้วไม่เคยพูดเรื่องเดิม นอกจากใครถาม ถ้าถามว่ารักมั้ยไม่รู้ มันเป็นความผูกพันมากกว่า มันทำให้พี่ไปบอกคนอื่นว่าเวลาคบใครสักคน ยิ่งคบนานอย่าคบแบบผัวเมีย ให้คบแบบเพื่อน เราจะได้ไม่หวงมาก พื่ลืมจะเล่าว่า พอมาดูดวงจะรู้จังหวะในการที่เขาจะไปมีคนอื่น แล้วพี่ก็โทรเลยบอกว่าขอคุยกับคนข้างๆ หน่อยจะดูดวงให้เขา พี่ก็คุยกับผู้หญิงคนนั้นเลย พี่ก็บอกว่าน้องคะ น้องมีปัญหากับแฟนน้องเหรอคะ น้องก็เลยให้แฟนพี่เป็นที่ปรึกษาหรอ พี่พูดแบบนี้เลย แต่พี่จะไม่ทำบ่อย เพราะว่าเดี๋ยวแฟนพี่จะหาว่าพี่ไปละลาบละล้วงแต่ทำเพื่อให้เขาเกรงกูบ้างนะเว้ย
แล้วเรื่องความรักของครอบครัวพี่?
ปู : พี่นี่ทุกข์ทรมานมาก แต่มีคนสอนพี่มาว่ามนุษย์ทุกคนมีเจ้ากรรมนายเวร อย่างพี่เรารู้สึกทุกข์กับเรื่องของน้องชายที่ติดยา แล้วตอนนี้เป็นตับแข็งเป็นสารพัดโรค เมื่อก่อนพี่เคยคิดนะว่าเมื่อไหร่มันจะตายสักที อาจารย์บอกอย่าไปคิดแบบนั้นเพราะถ้าคนนี้ไป เจ้ากรรมนายเวรใหม่เรามาทันที
แล้วทำไมน้องชายถึงไปติดยา?
ปู : วัยรุ่นสมัยก่อนตั้งแต่บุหรี่ กัญชา ยาเสพติดสารพัด แล้วก็มีเพื่อน ซึ่งเขาบอกว่าถ้าพี่ปูพูดเรื่องเขาเมื่อไหร่ให้บอกเลยว่าอย่าไปโทษเพื่อน เพราะการที่จะติดยาหรือไม่ติดยาอยู่ที่ตัวเรา และการที่จะเลิกได้ก็อยู่ที่ตัวเราอีก
ตอนที่เห็นน้องหักดิบนั่นก็คือนรกบนดินเลยหรอ?
ปู : พี่ร้องไห้เลย โห แก้ผ้า ดิ้นๆ แบบน้ำลายฟูมปากเลย ใจอยากให้เขาไปเลย แต่ก็ไม่ได้ต้องเอาส่งโรงพยาบาล แล้วมีอยู่ทีนึงเขาหลอน เห็นแม่เป็นหมา เอามีดไล่ฟันแม่ เขาบอกเขาเห็นผี นี่คือโทษของยาเสพติด ตอนนี้เรื่องยาเสพติดหายแล้วเพราะว่าเดี้ยงเป็นพิการ
แล้วพี่เอากำลังใจมาจากไหน?
ปู : พี่ทำใจได้มั้ง แม่ 85 ปีแล้ว ไม่นานก็ดูแลเขาได้ไม่นาน จงดูแลเขาให้มากที่สุด อยากกินไรกิน ไม่เคยมีใครกลับมาบอกว่าใส่บาตรแล้วอร่อย เลยทำใจได้ ส่วนน้องที่เป็นแบบนี้พี่ก็ทำใจได้อีกไม่นานมันก็ตาย มันคงไม่อายุยืนหรอก เราก็ดูแลเขาให้ถึงที่สุด เพราะไม่งั้นคำว่ารู้งี้ทำไมเราไม่ทำดีกับเขาให้ถึงที่สุด
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama