วันที่ 3 เม.ย. นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่บริเวณห้วยตึงเฒ่า และกองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้า และสถานการณ์ไฟป่าอย่างใกล้ชิด หลังช่วงเช้าเกิดไฟป่า บริเวณดอยห้วยม่วง บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน อ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระดมกำลังกว่า 50 นาย สนธิกำลังร่วมกับ ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 กองพันพัฒนาที่ 3 เดินเท้า เป็นระยะเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง เข้าดับไฟป่า
และช่วงบ่าย เกิดไฟปะทุขึ้นอีก 2 ครั้ง และลุกลามเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับมีกระแสลมแรงทำให้สะเก็ดไฟปลิวไปตก ในจุดที่เป็นหน้าผาสูงชันห่างจากจุดแรกไปประมาณ 1 กม. กำลังภาคพื้นดินไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากมีความเสี่ยง จึงได้ประสานขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพบกและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อบินโปรยน้ำดับไฟ โดยใช้อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าเป็นจุดตักน้ำเพราะอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุไฟไหม้
เบื้องต้นพบว่ามีพื้นที่เสียหายกว่า 10 ไร่และขณะนี้ยังไม่สามารถดับไฟได้ เนื่องจากไฟได้ลุกลามลงไปในหุบเขา ส่วนอีกจุด เกิดขึ้นที่บ้านแม่ใน ต.แม่สา อ.แม่ริม โดยมีเฮลิคอปเตอร์ MI7 ของกองทัพบก ได้ขึ้นบินโปรยน้ำ เพื่อดับไฟในเบื้องต้นพบว่ามีพื้นที่เสียหายกว่า 5 ไร่ หลังจากสอบถามทางอุทยานดอยสุเทพปุย เบื้องต้นสันนิษฐานว่ามีผู้ลักลอบจุดไฟ เพื่อการล่าสัตว์
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบกลุ่มควันบริเวณ ตีนดอยสุเทพ เหนือบ้านพักตุลาการ โดยเป็นไฟป่าบริเวณดอยสุเทพเหนือบ้านพักศาลอุทธรณ์ ซึ่งมองเห็นเป็นกลุ่มควัน ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสาน ฮ. MI7 ไปทำการดับแล้วในช่วงเย็นและได้ส่งเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งไปเฝ้าระวังและทำแนวกันไฟบริเวณบ้านพักศาลตุลาการ หรือบ้านป่าแหว่งไว้ เพื่อป้องกันไฟป่า แล้ว
ทั้งนี้ ผวจ.เชียงใหม่ ได้กำชับขอกำหนดภาระกิจในแต่ละจุดให้ชัดเจน เกรงจะซ้ำซ้อนกัน เนื่องจากมีไฟเกิดในจุดที่ใกล้เคียงกันมากนัก