นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเหรียญกษาปณ์รุ่นเก่า หรือเหรียญกษาปณ์รัชกาลที่ 9 หมุนเวียนอยู่ในระบบราว 33,000 ล้านเหรียญ มูลค่า 68,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชนิดราคา 1 บาทมากที่สุด หรือ 51% ของจำนวนเหรียญทั้งหมดในระบบ
อย่างไรก็ตาม กรมจะปล่อยให้เหรียญหมดสภาพตามอายุการใช้งานในอีกประมาณ 5 ปี จากนั้นในปีที่ 6 จึงจะผลิตเหรียญใหม่ของรัชกาลที่ 10 เข้ามาทดแทน คาดว่าภายใน 10 ปี จะสามารถเก็บเหรียญกษาปณ์รุ่นเก่าของรัชกาลที่ 9 ได้ทั้งหมดและจะเหลือเหรียญกษาปณ์ของรัชกาลที่ 10 เพียงรุ่นเดียว ที่หมุนเวียนในระบบการเงินของประเทศ
ส่วนเหรียญกษาปณ์ที่รับคืนมาทั้งหมด ไม่ได้นำไปผลิตเหรียญต่อ แต่จะนำไปหลอมเพื่อขายเป็นโลหะ SCRAP หรือโลหะชำรุดแทน โดยในการหลอมเหรียญนั้น จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจตราตลอดเวลา เพื่อไม่ให้นำเหรียญกลับไปใช้อีก จากนั้นจะเปิดให้บริษัทต่างๆเข้ามาประกวดราคารับซื้อ โดยต้องแจ้งความจำนงด้วยว่าต้องการโลหะเหล่านี้ไปทำอะไร ซึ่งส่วนมากนำไปผลิตเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
“ปัจจุบันกรมผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจปีละ 2,700-2,900 ล้านเหรียญ แต่เหรียญจำนวนมาก ประชาชนเก็บไว้ หรืออยู่ในตู้รับบริจาคที่วัด ทำให้เหรียญสูญหายไปถึง 2,000 ล้านเหรียญ โรงงานกษาปณ์จำเป็นต้องผลิตเหรียญทดแทนทุกปี แต่ไม่ได้กระทบต่อต้นทุนการผลิตเหรียญ และกรมยังมีกำไรจากการผลิตเหรียญถึงประมาณ 1,800 ล้านบาทต่อปี”.