เมื่อ 10 เม.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศ รวมทั้งรอยเตอร์ บีบีซี และเจแปนไทม์ส รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ระทึก เครื่องบินขับไล่ สเตลธ์ F-35 ของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น หายจากจอเรดาร์ เมื่อค่ำวันที่ 9 เม.ย. 62 ขณะฝึกบินเหนือน่านฟ้าในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากเมืองมิซาว่า จ.อาโอโมริ ทางภาคเหนือของญี่ปุ่นราว 135 กม.นั้น
นายทาเกิ อิวายะ รมว.กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า เครื่องบินสเตลธ์ลำนี้ได้ประสบเหตุตกในทะเล โดยทีมค้นหาพบซากชิ้นส่วนของเครื่องบินบางชิ้นแล้วที่บริเวณนอกชายฝั่งจังหวัดอาโอโมริ ทว่าขณะนี้นักบินยังคงสูญหาย
บีบีซี ชี้ว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าทำไมเครื่องบินสเตลธ์ลำนี้ ซึ่งมีอายุการใช้งานไม่ถึง 1 ปี จึงขาดการติดต่อเมื่อเวลา 19.27 น. ของวันที่ 9 เม.ย. และประสบเหตุตกในมหาสมุทรแปซิฟิกในที่สุด โดยนักบินได้ขาดการติดต่อหลังจากนำเครื่องบินทะยานขึ้นจากฐานทัพอากาศมิซาว่าได้เพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น และก่อนหน้านี้ไม่เคยมีรายงานว่าเครื่องบินขับไล่ลำนี้เกิดปัญหาขัดข้องใดๆ มาก่อน
ตามรายงานระบุว่า กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นได้มีการสั่งซื้อฝูงเครื่องบินขับไล่ F-35 จำนวน 13 ลำ มูลค่ามหาศาล ลำละกว่า 10,000 ล้านเยน หรือประมาณ 90 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,835 ล้านบาท) มาแทนเครื่องบินขับไล่รุ่นเก่า F-4 โดยหลังจากเกิดเหตุเครื่องบินขับไล่สเตลธ์ประสบเหตุตกในมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้มีคำสั่งระงับบินเครื่องบินสเตลธ์ F-35 12 ลำเป็นการชั่วคราว
ข่าว/ภาพ https://cnn.it/2DBnb
