หลังจากมีการประกาศปิดอ่าวมาหยา ภายใต้การดูแลของเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ มาเป็นเวลารวมกว่า 10 เดือน พบว่า ระบบนิเวศในพื้นที่เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยอาจจะต้องปิดอ่าวมาหยานานออกไปอีก 4-5 ปี หรืออาจไม่มีกำหนด เพื่อให้อ่าวกลับมาอุดมสมบูรณ์ที่สุดอีกคร้ง
วันนี้ (18 เม.ย.) นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี นักวิชาการ และอาสาสมัคร เผยว่า ภายหลังการประกาศปิดอ่าวมาหยาไปตั้งแต่กลางปี 2561 ถึงตอนนี้เป็นระยะเวลา 10 เดือน เนื่องจากสภาพธรรมชาติ ชายฝั่ง รวมถึงแนวปะการังใต้ท้องทะเลได้รับความเสียหาย และเสื่อมโทรมอย่างหนัก ล่าสุด ระบบนิเวศทั้งบนบกและใต้ทะเลเริ่มฟื้นตัว ทำให้ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถปลูกปะการังได้จำนวน 23,000 ชิ้น พบมีการแตกหน่อ มีการเจริญเติบโตดี พร้อมติดตั้งเครื่อง Data Loggers เพื่อติดตามอุณหภูมิน้ำทะเล และฟื้นฟูพื้นที่ป่าบนบก
“หลังจากปิดฟื้นฟูอ่าวมาหยามาเป็นระยะเวลา 10 เดือน พบว่า ระบบนิเวศใต้ทะเล ปะการัง มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง มีฉลามหูดำกลับเข้ามาหากินในบริเวณอ่าวมาหยา และพื้นที่บนชายหาดมีการฟื้นตัวดี มีปูลม ผักบุ้งทะเล พันธุ์ไม้ต่างๆ กลับมางอกขึ้นบริเวณชายหาด”
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีการขยายเวลาปิดอ่าวเพื่อฟื้นฟูออกไปอีกเป็นเวลา 4-5 ปี หรืออาจขยายออกไปอย่างไม่มีกำหนด และยืนยันว่าไม่มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวตามปกติในเร็วๆ นี้ ตามที่ข่าวลือปล่อยออกมาแต่อย่างใด
