หลังโดนผู้สมัครส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ 3 คน ยื่นกกต.18 เม.ย.2562 ให้ยุบพรรคเศรษฐกิจใหม่ หาว่าถูกคนนอกพรรคครอบงำ ต่อมาเมื่อบ่าย 19 เม.ย. นายมิ่ง ขวัญ แสงสุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้พร้อมด้วยผู้บริหารพรรคเปิดแถลงข่าวสู้
“เกี่ยวกับเรื่องนี้ขอยืนยันว่าสถานภาพของผม คือ เป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ส่วนนายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้า เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก นายสุภดิชเชิญผมมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ผมยอมรับเงื่อนไข เพราะให้อิสระในการเขียนนโยบาย ผมอยากทำเรื่องเศรษฐกิจ จึงเข้าร่วมกับทางพรรค นายสุภดิชบอกว่า ผมมีชื่อเสียง จะเสนอเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคเพียงคนเดียว และจากนั้นก็ให้ผมเป็นหัวหน้าพรรค จริงๆผมไม่ได้อยากเป็นหัวหน้าพรรคอะไรทั้งนั้น เพียงแต่เงื่อนไขและอุดมการณ์ตรงกัน จึงยอมรับ ก่อนเป็นหัวหน้าพรรค ผมได้หารือกับนายสุภดิช ผมบอกว่าการบริหารจัดการภายในพรรค ขอแบ่งเป็นปีกซ้ายและปีกขวา โดยปีกหนึ่ง คือ การออกนโยบาย ออกพบมวลชน ผมจะอยู่ฝั่งนี้ ส่วนการบริหารกิจการภายใน การคัดเลือกผู้สมัคร มอบให้ทีมของนายสุภดิช ดำเนินการ สรุปคือผมออกดีเบต ออกหาเสียงโดยภาพรวม ส่วนทีมของนายสุภดิช บริหารจัดการภายในพรรค เรื่องนี้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ ผมไม่ทราบ ตอบไม่ได้ จะไปสืบสวนราวเรื่องก็ไม่ใช่หน้าที่ เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต.”
นายสุภดิช อากาศฤกษ์ แถลงเป็นคนต่อมาว่า ว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มเพื่อนสนิท ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นพูดตรงๆ คือ ช่วยๆกันออก ส่วนที่ที่เชิญนายมิ่งขวัญมาร่วมและเป็นหัวหน้าพรรค เพราะเห็นว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพิสูจน์แล้วว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต มีแนวคิดเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พรรคแทบไม่มี เงินสนับสนุน ไม่มีการปราศรัย ไม่มีรถแห่ การหาเสียงเกิดจากการใช้เวทีดีเบตต่างๆ ส่วนเรื่องที่มีผู้สมัครของพรรคไปยื่นยุบพรรค อ้างว่าไม่มีการจัดประชุม และมีบุคคลภายนอกครอบงำนั้น ตอบง่ายๆว่า เรามีการจัดการประชุมผู้สมัคร ส.ส. นายมิ่งขวัญก็ถูกเชิญไปอบรมเป็นภาคๆ สิ่งที่มีผู้ไปยื่น กกต.ไม่เป็นความจริง การอ้างว่ามีบุคคลภายนอกครอบงำพรรคก็ไม่จริง คนที่ถูกกล่าวอ้าง คือ เพื่อนสนิทของผม และเป็นคนที่ร่วมก่อตั้งพรรค เป็นสมาชิกพรรคด้วย พี่ชายของเขาก็เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของเราด้วย และการที่ผู้ไปยื่นทำผิดข้อบังคับพรรค เราขอดูกฎหมายเพื่อดำเนินการต่อไป”
โฆษกพรรคเศรษฐกิจใหม่ แถลงเสริม ว่า มี2 ประเด็นที่ผู้สมัครไปยื่น กกต.ยุบพรรคตัวเอง คือ
1.หลังจากไปยื่นแล้ว ปรากฏว่าช่วงบ่ายวันนั้นมีสมาชิก 3 ราย ที่มีรายชื่อเป็นพยานในเอกสารที่ยื่นให้ กกต. ได้ยื่นขอถอนชื่อจากการเป็นพยานแล้ว เพราะไม่ทราบที่มาที่ไปว่า การไป กกต.เพราะจะไปเรื่องการยุบพรรคตัวเอง
2.เจ้าของบ้านที่ถูกอ้างในเอกสารได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
คลิกอ่านข่าวของแนวหน้า https://bit.ly/2GlB29s
จากนั้นการแถลงข่าวเข้าประเด็นจะร่วมกับฝ่ายใดจัดตั้งรัฐบาล โดยนายมิ่งขวัญแถลงว่า
“ยืนยัน จะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรค พปชร. ผมและพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้ประกาศก่อนการเลือกตั้งแล้วว่าจะไม่ร่วมกับพรรค พปชร. เพราะอุดมการณ์การเมืองแตกต่างกัน อุดมการณ์ของเราไม่เปลี่ยนแปลง เรายืนยันว่าจะทำงานร่วมกันกับฝ่ายประชาธิปไตย หมายถึงวันนั้นซึ่งยังไม่มีการเลือกตั้ง โดยเรายึดมั่นเรื่องซื่อสัตย์สุจริต ถ้าไม่ซื่อสัตย์เราจะถอยออกมาเอง วันนั้นเราประกาศไว้อย่างนั้น และวันนี้ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ที่มีข่าวว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่ไปร่วมเจรจากับพรรค พปชร.ในการตั้งรัฐบาลนั้น ผมและว่าที่ ส.ส.ทุกคนในนามพรรค ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป้นความจริง ตัวผมเองไม่เคยไปเจรจาใดๆทั้งสิ้น ขอยืนยันอีกครั้ง ว่า
1.ผมไม่มีความรังเกียจพรรค พปชร. ก็คนรู้จักกันทั้งนั้น
2.อุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างๆกัน จึงบอกว่าไม่ร่วม พูดมาตั้งแต่ต้น
3.พรรคเราเปลี่ยน มีงูเห่า ผมยืนยันว่าไม่ ชัดเจนนะวันนี้”
นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้าพรรค แถลงย้ำ “ยืนยันว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ไม่มีรอยร้าว เรามีเอกภาพ ยืนยันว่าไม่มีงูเห่า เราไปไปทางเดียวกัน ไม่มี 5 กับ 1 อะไรต่างๆตามที่มีข่าว”
matemnews.com
19 เมษายน 2562