นับเป็นละครที่ทำให้แฟนๆ หลายคนรู้สึกประทับใจราวกับย้อนชีวิตไปในวัยเด็กจริงๆ สำหรับละครเรื่อง“กรงกรรม” ซึ่งมีฉากหลังเรื่องราวต่างๆ อยู่ใน “อำเภอชุมแสง”อำเภอเก่าแก่ของจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยใช้ชื่ออำเภอว่า “อำเภอพันลาน”เพราะตั้งอยู่แถบตำบลพันลาน ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “อำเภอไชย”และใช้ชื่ออำเภอชุมแสงในที่สุด เพราะได้ย้ายที่ว่าการอำเภอมาอยู่ตรงข้ามตลาดชุมแสง
ตลาดชุมแสงในอดีต
คำว่าชุมแสงนั้นเล่าต่อๆ กันมาว่า เพราะบริเวณนี้มีต้นไม้ชื่อ “ต้นชุมแสง”ขึ้นเป็นจำนวนมาก กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำท้องถิ่น ชาวบ้านจึงเรียกย่านนั้นว่าบ้านชุมแสง ส่วนอีกทางหนึ่งเล่ากันว่าสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินได้นำกองทัพปราบก๊กต่างๆ และตั้ง “คลังแสง” ไว้ปราบก๊กเจ้าเมือง ชาวบ้านจึงเรียกที่ตั้งค่ายนั้นว่าคลังแสง แต่ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น“ชุมแสง”
ภาพในละครกรงกรรม
ชุมแสงในอดีตนับเป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าอยู่สุดๆ โดยเฉพาะย่านตลาดที่มีร้านค้าต่างๆ มากมาย เหมือนอย่างที่เห็นในละครกรงกรรม ทั้งบริเวณร้านชำบ้าน“แม่ย้อย” หรือในตัวตลาดที่ “เรณู” มักนำขนมไปขาย ก็จะได้เห็นบรรยากาศคึกคักราวกับย้อนไปในวันวานเลยทีเดียว
ศาลเจ้าพ่อและเจ้าแม่ชุมแสง
อำเภอชุมแสงยังมีองค์พระบรมธาตุเกยไชยที่เชื่อว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย และมีศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสงซึ่งเป็นแหล่งรวมความศรัทธาของชาวบ้าน หากล่องเรือไปทางตำบลทับกฤชก็สามารถไปไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อและเจ้าแม่ทับกฤชซึ่งในอดีตตั้งอยู่บริเวณปากคลองได้ด้วย
ชีวิตริมน้ำของชาวชุมแสง
นอกจากนี้ชาวบ้านชุมแสงยังนิยมสัญจรกันทางน้ำ เพราะชุมแสงอยู่ติดแม่น้ำน่านและแม่น้ำยม เหมือนที่ตัวละคร“พิไล”เอ่ยกับ “ย้อย” แม่สามีว่า ให้นำเรือมารับแขกเพื่อร่วมงานแต่งของเธอที่ทับกฤชถึงห้าลำ
สะพานวัดคลองระนง
ภาพในละครกรงกรรม
แม้แต่ฉากสะพานไม้ริมคลองที่ใช้เป็นจุดเชื่อมโยงวิถีชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะเรณูเวลาเดินไปตลาดก็ต้องผ่านสะพานไม้แบบนี้ ในละครก็ยังจำลองได้เหมือนสุดๆ โดยจากภาพด้านบนเป็น “สะพานวัดคลองระนง” ซึ่งสร้างสะพานนี้ถวายหลวงพ่อจันทร์ อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองระนง
สถานีรถไฟชุมแสงในอดีต
ภาพในละครกรงกรรม
ช่วงปี 2512-2515 ผู้คนเริ่มนิยมโดยสารรถไฟในการเดินทางจากชุมแสงไปยังตัวเมืองปากน้ำโพ เพราะยังไม่มีถนนเชื่อมต่อ ระหว่างทางก็มีเมนูเด็ดเป็นน้ำแข็งไสรสหวานฉ่ำชื่นใจที่ตำบลทับกฤช ซึ่งตัวละครที่เราเห็นเดินทางด้วยรถไฟไปปากน้ำโพบ่อยๆ ก็คือ “วรรณา” น้องสาวของเรณู และ “อาสี่”ลูกชายคนเล็กของตระกูลแบ้นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ch3thailand
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก นายอำนาจ กรเอี่ยม จากกลุ่ม “บันทึกเมืองชุมแสง”