พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.มโนช จันทร์คีรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 และนายศราวุธภักดี ผอ.ส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน ปปส. ภาค 8 ร่วมปล่อยแถวตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ ปปส.จำนวน 433 นาย เข้าตรวจคันเป้าหมาย และติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยร่วมกันค้ายาเสพติดเครือข่ายของอดีดผู่ใหญ่บ้านรายหนึ่ง หลังถูกจับกุมเมื่อวันที่7 เม.ย.62 และถูกยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังเปืน 32 ชุด กระจายเข้าตรวจคันกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานี 15 จุด , จ.นครศรีธรรมราช 16 จุด , จ.พัทลุง 1 จุด และส่งตำรวจ อีก 2ชุด นำหมายศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปที่ จ.เชียงราย 4 จุด และที่ จ.ราชบุรี อีก 3 จุด จับคุม11ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฟอกเงินไปควบคุมไว้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สภ.ดอนสักเพื่อสอบปากคำ และสอบสวนผู้ประกอบการรับจ้างโอนเงิน 20 คน จากการตรวจคัน 28 เป้าหมายที่เกี่ยวข้องการฟอกเงินให้เครือข่ายค้ายาเสพติด ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน หากไม่พบเป็นการฟอกเงิน จะดำเนินคดีประกอบกิจการโอนเงินโดยไม่ได้ริบอนุญาต จำคุก 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท
พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าชุด กล่าวว่า จากการขยายข้อมูลเส้นทางการเงินและสอบปากค่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเบื้องตันมีหลักฐานเพียงพอนำไปสู่การออกหมายจับและจับกุมไปแล้วทั้งสิ้น 11 รายและการรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้มีบัญชีเงินฝาก 64 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 26 ใบ บัตรเครดิด 6 ใบ โทรศัพท์มือถือ 15 เครื่อง สมุดบันทึกการโอนเงิน 21 เล่ม สมุดเช็ค 1 เล่ม อาวุธปืน กระสุนและยาแก่ไออีกจ่านวนหนึ่ง
นายศราวุธภักดี ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน ปปส. ภาค 8 กล่าวว่า คดีนี้เปืนคดียาเสพดิดที่น่าสนใจแต่ยังไม่ใช่ตัวใหญ่ที่สุดในภาค 8 ยังจะมีรายอื่นๆที่อยู่นอกจังหวัดอื่น แต่คดีนี้ผู้ต้องหาได้สร้างผลกระทบต่อการแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีเครือข่ายที่กว้างขวางทั้งภาคไต๋ไปจนถึงภาคเหนือ
ด้านพล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องพบว่าเกี่ยวโยงไปถึง จ.เชียงราย ออกหมายจับได้ 4 เป้าหมายฐานฟอกเงินพัทลง สุราษฎร์ธานี เชื่อมโยงระบาดไปในพื้นที่ภาคเหนือ และที่ จ.สุราษฎร์ธานี กับจ.นครศรีรรมราช เกือบทั้งจังหวัดได้พยานหลักฐานน่าพอใจที่จะทำคดีต่อไป
ข่าวแจ้งว่า การดรวจปูพรมดรวจคันเครือข่ายยาเสพติดครั้งนี้ได้พบเส้นทางการเงินใหม่ ของเครือข่ายยาเสพติดจะใช่พื้นที่จังหวัดใหญ่แห่งหนึ่งในภาคใต้เป็นจุดพักยาเสพติด และใช้วิธิการโอนเงินค่ายาเสพติดจากพื้นที่อำเภอรอบนอก