นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผอ.สนง.นโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าราคาน้ำมันแพง ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายประชาชน ทำให้ประชาชนในภาคใต้ หันไปซื้อน้ำมันเถื่อนที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีราคาถูกว่าของประเทศไทย เพราะโครงสร้างภาษีแตกต่างกันนั้น สนพ.ขอยืนยันว่า น้ำมันที่ผลิตได้จากประเทศไทยมีคุณภาพดีกว่า และมีหน่วยงานหลักกำกับดูแลเรื่องนี้ที่ชัดเจน
ทั้งนี้ เส้นทางน้ำมันเถื่อนในภาคใต้จะอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา ที่มีการนำเข้าผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ ด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ และส่วนใหญ่จะลักลอบขนเข้ามาด้วยรถกระบะดัดแปลง หรือการเติมให้เต็มถัง ขับผ่านด่านชายแดนเข้ามาในประเทศไทย ขณะที่เหตุจูงใจที่ทำให้คนไทยไปซื้อน้ำมันดังกล่าว มาจากเรื่องราคาที่ถูกกว่าประเทศไทยเป็นหลัก
ซึ่งราคาน้ำมันในประเทศมาเลเซีย น้ำมันดีเซลราคาประมาณ 16.89 บาทต่อลิตร และน้ำมันเบนซิน (ออกเทน 95) ราคาประมาณ 16.12 บาทต่อลิตรนั้น เนื่องจากรัฐบาลมาเลเซีย มีการชดเชยราคาน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลถูกกว่า 12 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์และน้ำมันเบนซิน 5-20 บาทต่อลิตร แต่หากเปรียบเทียบที่คุณภาพน้ำมันแล้ว น้ำมันในประเทศไทยมีคุณภาพดีกว่าประเทศมาเลเซีย ทั้งดีเซลและเบนซิน (รวมถึงแก๊สโซฮอล์)
นอกจากนั้น การที่ราคาน้ำมันในประเทศไทย มีราคาที่สูงกว่า เนื่องจากการจำหน่ายสินค้าในประเทศไทย มีการเก็บภาษีสรรพสามิต สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทดีเซลมีอัตราอยู่ที่ 5.98 บาทต่อลิตรน้ำมันเบนซิน มีอัตราอยู่ที่ 6.50 บาทต่อลิตร เป็นต้น ซึ่งจากความแตกต่างของราคาน้ำมันดังกล่าว จึงเป็นเหตุจูงใจสร้างผลตอบแทน ให้แก่ผู้กระทำผิดอย่างคุ้มค่า ภาครัฐจึงต้องดำเนินการควบคุมดูแล และสามารถดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด แก่ผู้ที่ลักลอบขนน้ำมันเถื่อน โดยมีกรมสรรพสามิตเป็นหน่วยงานหลัก ในการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แก่ กรมศุลกากร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
