นายคารม พลพรกลาง ว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ นำว่าที่ ส.ส. และผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่ อีก 10 คน รวมเป็น 11 คน ปรากฏตัวที่ สน.ที่งสองห้อง เมื่อ 11 น.วันที่ 2 พ.ค.2562 แล้วพร้อมกัน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ในข้อหากระทำการอันเป็นเท็จ เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิด และกลั่นแกล้งให้ผู้สมัครส.ส. ถูกเพิกถอนสิทธิในการลงรับสมัครรับเลือกตั้ง ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือ ไม่ได้รับการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 143 วรรค 2
นายคารม แถลงแก่นักข่าว ว่า สืบเนื่องจากวันที่ 29 เม.ย. นายศรีสุวรรณได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร และว่าที่ ส.ส. 11 คน ว่ามีคุณสมบัติ เกี่ยวกับเรื่องการถือหุ้น หรือเป็นเจ้าของสื่อมวลชนใดๆ ทั้ง 11 คน สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1.กรณีของตน ตนไม่อยู่ในลักษณะต้องห้าม เนื่องจาก ว่า บริษัทสำนักพิมพ์สามพอ เป็นบริษัทตนจริง และตนเคยถือหุ้นจริง แต่บริษัทนี้ไม่เคยประกอบกิจการ ตอนที่เปิดมาต้องการพิมพ์หนังสือ แต่ไม่ใช่สื่อมวลชน ประเด็นต่อมา คือ บริษัทดังกล่าว มีการชำระบัญชี ก่อนปิดบริษัทไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. ปี 2556
2.บริษัทที่ไม่มีการประกอบกิจการใดๆ หรือบริษัทร้าง ที่นายทะเบียนตัดชื่ออกไปแล้ว
3.มีการขายหุ้นออกไป โดยมีการจดทะเบียน แต่อาจจะยังมีชื่อปรากฎในบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หากเป็นห้างหุ้นส่วน แต่กรณีที่เป็นบริษัท อาจมีชื่อในหนังสือรับรอง เรายินดีให้ทุกคนตรวจสอบ แต่ที่มีปัญหาเพราะ ในหนังสือรับรอง
การที่นายศรีสุวรรณ กล่าวอ้างมีการระบุว่ามีการชำระบัญชีไปแล้ว หากเป็นนักกฎหมาย ต้องรู้ว่า และมีแบบ รช.1 ปรากฎอยู่ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า เขาจงใจหรือ เลินเล่อ แม้ว่าเขาบอกว่าจะตรวจสอบ แต่ก็บอกว่าไม่ต้องการประกาศรายชื่อ และพูดในเชิงว่า ผู้สมัครทุกท่านที่รู้ตัวว่าไม่มีคุณสมบัติ ยังมาลงสมัครนั้นผิดกฎหมาย ซึ่งความจริงที่ปรากฎก็ชัดเจนว่า บริษัทหมดสภาพไปโดยสมบูรณ์แบบ ไม่มีทางฟื้นมาเป็นบริษัทได้อีก ขณะที่บริษัทที่ไม่มีการประกอบการใดๆ ก็ไม่มีความเคลื่อนไหว มานานกว่า 5 ปี ทำให้เกิดความสงสัยว่า นายศรีสุวรรณ ทำงานให้เป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่ หรือมีสาเหตุอะไรจึงต้องทำแบบนี้ สิ่งที่คุณตรวจสอบว่าคนเหล่านี้ หมิ่นเหม่ แต่โทษที่พวกเขาจะได้รับนั้นสูงมาก ทั้งจำคุก โทษปรับ และตัดสิทธิ์ทางการเมือง การยื่นตรวจสอบเรื่องการถือหุ้นสื่อของนายศรีสุวรรณ เป็นการกระทำที่เกินเลย และไม่มีกฎหมายรองรับ ถือเป็นการกลั่นแกล้งให้ผู้สมัครส.ส.ต้องขาดคุณสมบัติ ตนไม่รู้จักกับนายศรีสุวรรณเป็นการส่วนตัว แม้จะสามารถยื่นฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทและการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เพิ่มได้ แต่พรรคอนาคตใหม่จะยังไม่ขอดำเนินการ โดยจะขอใช้สิทธิในการปกป้องชื่อเสียงตามกฎหมายการเลือกตั้งก่อน หากนายศรีสุวรรณกระทำผิดจริง ก็มีโทษทั้งจำคุก ปรับ และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง
ส.ส. และผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่ 11 คน ประกอบด้วย
1.นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
2.นายวินท์ สุธีรชัย ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
3.นายคารม พรหมพรกลาง ว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ
4.นายวรภพ วิริยะโรจน์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
5.นายวรกร ฤทัยวาณิชกุลผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
6.นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
7.นายหรินทร์ ยุวรัตนาพร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
8.น.ส.นรีรัตน์ สุขวรรณรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 สระบุรี
9.นายวีระชน นามประกาย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 สกลนคร
10.นานปิยเมษฐ ประณีตพลกรัง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 14 นครราชสีมา
11.น.ส.กัลยารัตน์ กิตติกัลยานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 10 ขอนแก่น
matemnews.com
2 พฤษภาคม 2562