Home มาเต็มกัญชา ขอทุนเดินขบวนให้กัญชาชน

ขอทุนเดินขบวนให้กัญชาชน

448
0
SHARE

รูปและข่าวของ naewna.com

https://bit.ly/2DLfZwF

 

อ่านข่าวท่านเลขาธิการ ปปส. “นายนิยม เติมศรีสุข” จัดรายการใหญ่เมื่อบ่ายวันที่ 2 พ.ค.2562 แถลงข่าวใหญ่โต  มีกัญชาแห้งมากองต่อหน้านักข่าว 1,000 กิโลกรัม  มีเจ้าหน้าที่ใส่ชุดขาว  ใช้อุปกรณ์ที่ไม่เคยเห็น  ทำการทดสอบน้ำมันกัญชาให้นักข่าวชมว่า  บริสุทธิ์รึไม่  เห็นแล้วก็ตื่นเต้นยิ่งนัก    กระผม  นายฉลามสายเขียว…ปลื้มมาก

 

ผมเคยเขียนประเด็น

 

1.กัญชาของกลางที่ ปปส.จับมาจากที่ต่างๆแล้วมอบให้สถาบันอุดมศึกษา  หน่วยงานรัฐ รวมทั้ง ม.รังสิต ของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์  อาจารย์เดชา ศิริภัทร นำไปสกัดน้ำมันแล้วทำการวิจัยหาทางเอาไปรักษาโรคต่างๆของมนุษย์นั้น  ถ้าเป็นกัญชาที่ไม่บริสุทธิ์  มีสารปนเปื้อนก็สูญเปล่า  ซึ่งผมค่อนข้างเชื่อไปทาง  มีสารปนเปื้อน  เพราะปลูกในธรรมชาติแน่นอน  แม้ไม่รู้ว่าปลูกที่ใดก็ตาม

 

2.ถึงขณะนี้มีผู้ครอบครองกัญชาไปแจ้งขอนิรโทษกรรมแค่ 6,000 ราย เพราะไม่ไว้ใจ กลัวถูกตลบหลังจับ

 

ท่านเลขาธิการนิยม ก็ได้แถลงข่าวชี้แจง 2 ประเด็นนี้เป็นสาระสำคัญ  พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของล็อตแรกให้ชม  หนัก 1 ตัน นายฉลามสายเขียว ก็ปลื้มสิครับ

 

ก็ข้อเขียนของผมทั้งนั้น

 

อ่านรายละเอียดนะครับ

 

“การสุ่มตรวจตัวอย่างของกลางกัญชา  เพื่อหาสารปนเปื้อนที่ได้จากการจับยึด 2 คดี โดยกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด รวมของกลางกัญชา น้ำหนัก 1 ตัน ขั้นต้นหากพบว่า สามารถใช้ประโยชน์กัญชาในทางการแพทย์ได้ สำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินการประสานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป  จากการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการศึกษาวิจัยและเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางเพื่อการศึกษาวิจัย การจัดหาและการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ภายหลังพ้นกำหนดนิรโทษกรรม 90 วัน โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จะประสานหน่วยจับกุม เพื่อสุ่มตรวจตัวอย่างของกลางเพื่อหาสารปนเปื้อน โลหะหนักต่างๆ  หากตรวจสอบแล้วพบว่า สามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และมีความปลอดภัยต่อประชาชน จะดำเนินการประสานขออนุญาตครอบครองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในการขอใช้ประโยชน์จากของกลางต่อไป  สำนักงาน ป.ป.ส. ยังได้ประสานหน่วยจับกุมของกลางเพื่อชะลอการเผาทำลาย   ได้ขออนุญาตครอบครองกัญชาจาก อย. ไว้แล้ว จำนวนทั้งหมด 43 คดี น้ำหนักรวม  22 ตัน (จับกุมได้ตั้งแต่ 1 ต.ค. 61 – 31 มี.ค. 62  เพื่อมาสุ่มตรวจพิสูจน์หาสารปนเปื้อน โดยจะดำเนินการร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อร่วมดำเนินการตรวจสอบฯ  สำนักงาน ป.ป.ส. จะพิจารณาขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยของรัฐเข้ามาร่วมดำเนินการ เพื่อให้สามารถรวบรวมของกลางกัญชาที่ผ่านมาตรฐานให้ได้เร็วที่สุด   ก่อนจะครบกำหนดนิรโทษกรรมในวันที่ 21 พ.ค.62 เพื่อให้ได้มาซึ่งการผลิตน้ำมันกัญชา ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ไร้สารปนเปื้อนและได้มาตรฐานต่อผู้ป่วยเป็นสำคัญ  กัญชาของกลางล็อตนี้ถือเป็นล็อตแรกที่ถูกนำมาตรวจสกัดหาสาร 2 ชนิดหลัก ที่สามารถสกัดเป็นยารักษาผู้ป่วยได้ คือ การสกัดหาสาร CBD (Cannabidiol) และสาร THC (Tetrahydrocannabinol) โดยสาร CBD ทำหน้าที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน ลดการอักเสบบวมโตของแผล หรือเนื้องอก ระงับเซลล์มะเร็งที่กำลังเติบโต ระงับการเกร็ง หรือชักกระตุก และสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในระบบประสาทได้ ส่วนสาร THC มีผลในทางประสาท ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้ม และช่วยให้อยากอาหาร  สำหรับการยื่นขอครอบครองกัญชาเพื่อนิรโทษกรรมทั่วประเทศ ขณะนี้มีมากกว่า 6,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยในกลุ่มอัลไซเมอร์ ชักเกร็ง พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนยื่นขออนุญาตครอบครองกัญชา ก่อนจะหมดเขตในวันที่ 21 พ.ค.นี้ ยืนยันไม่มีการยึดของกลาง  และไม่มีการทำประวัติติดตามจับกุม เพราะมุ่งเน้นเพื่อประโยชน์ทางการรักษาโรค”

 

ขอบคุณท่านเลขาธิการนิยมนะครับที่อ่านข้อเขียนของ นายฉลามสายเขียว

 

ท่านเลขาธิการนิยมรู้หรือเปล่าครับ  นายฉลามสายเขียว  เป็นคนขี้ตู่ชั้นยอด  ท่านเลขาธิการจัดแถลงข่าวโชว์การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของน้ำมันกัญชาให้นักข่าวชมครั้งนี้มาจากได้อ่านข้อเขียนของผมรึไม่   ก็ขี้ตู่ไปเรียบร้อยแล้วครับ

 

ผมขอออกจากรั้ว ปปส.เข้าไปรั้วทำเนียบรัฐบาล  ตามเป้าหมายเดิม  “เขียนหนังสือทิ่มใส่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ให้ท่านใช้อำนาจพิเศษของตัวท่าน  ที่ขณะนี้เวลานับถอยหลังสั้นลงเรื่อยๆ  ท่านบอกว่าจะอยู่แค่มิถุนายน แล้วจะได้รัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรีใหม่  ซึ่งพลเอกประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อแน่ๆ  แต่ไม่มีอำนาจพิเศษแล้ว

 

ผมเขียนส่งข่าวบอกท่านพลเอกประยุทธ์ไปแล้วว่า  “กัญชาชนจะเดินขบวน”  มาหาพลเอกประยุทธ์  เป้าหมายเดียวชัดเจน  ให้เอากัญชาออกจากเสพติดในกฎหมายไทย

 

ผมเชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ใช้อำนาจพิเศษปลดปล่อยกัญชาให้ประชาชนไทยแน่

 

ผมเชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ไม่กลัว UN

 

กัญชาเป็นทรัพยากรในธรรมชาติของประเทศไทย มันเกิดอยู่บนแผ่นดินไทยตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ยังไม่เกิด  ปู่ย่าตายาพี่ป้าน้ำอาของเรา  เอากัญชามาเป็นยา  เอากัญชามากินเป็นอาหารมาแต่โบราณกาลแล้ว

 

กัญชามีโทษหรือไม่  มีแน่นอน  ถ้าจะเถียงประเด็นนี้ผมไม่เถียงด้วย  เถียงยังไงก็ไม่จบ

 

พวกดัดจริตในไทยมันเยอะ 

 

บุหรี่ที่มีนิโคตินกินปอด  กับเหล้า  น้ำหมักข้าวเกิดแอลกอฮอร์  ที่คนกินแล้วซ่า  กินแล้วเป็นโรคตับ  และอีกสารพัดโรค  คนไทยทุกคนยืนยันได้ว่า  มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่ประเทศไทยก็ให้ขาย  และรัฐบาลก็เก็บภาษีเถิดเทิง

 

ถังแตกทีก็ขึ้นภาษีเหล้าภาษีบุหรี่

 

ก็ทำไมไม่เก็บภาษีจากธูรกิจกัญชาซะล่ะ

 

พอถึงคิวกัญชา  พวกดัดจริตออกมาเจี๊ยวจ๊าวทีไร  คนพวกที่รู้กัญชามีประโยชน์ก็เงียบเสียงไป

 

เถียงกันเมื่อไหร่  พวกกัญชาแพ้

 

ผมก็เลยขอถือโอกาสวันนี้กระตุ้นท่านพลเอกประยุทธ์ว่า  คุณโทษของกัญชานั้นตัวท่านรู้ดีหมดทุกอย่างอยู่แล้ว  ไม่ต้องอ่านข้อเขียนของกูรูคนไหนอีกก็ได้  พูดไปดีไม่ดี   ก็ซ้ำซาก  วันนี้ถึงนาทีตัดสินใจแล้วครับ

 

อาจารย์เดชา ศิริภัทร  พูดที่เพชรบุรี 2 พ.ค.2562 บอกว่า 20 พ.ค.2562 กัญชาชน  จะออกเดินขบวนจากจังหวัดพิจิตร  มุ่งหน้ามาหาพลเอกประยุทธ์  ให้ใช้อำนาจพิเศษสั่งเอากัญชาออกจากเสพติดในกฎหมายไทย… เดิน 20 วัน 20 คืน

 

ทำไมจึงเริ่มเดินวันที่ 20 พ.ค.25862  ก็เพราะ  พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกัญชา หมดเขต 19 พ.ค.2562

 

19 พ.ค.เป็นวันอาทิตย์  วันจันทร์หยุดชดเชย  เจ้าหน้าที่รัฐท่านก็ใจดีให้มาแจ้งนิรโทษกรรมกัญชาได้ถึงหมดเวลาราชการ 21 พ.ค.2562

 

ผมเชื่อว่าจะมีกัญชาชนหลงเชื่อมาแจ้งครอบครองน้อยมาก  กลัวถูกตลบหลังจับ

 

แม้ท่านเลขาธิการนิยม จะบอกแล้วในการแถลงข่าวว่าจะไม่มีการบันทึก  แต่คนป่วยที่ใช้กัญชากลัวแน่นอน  เพราะเจ้าหน้าที่บางคนหลอกเก่งนะครับท่านเลขาธิการนิยม  บางคนซักยิบ   กัญชาที่ครอบครองอยู่เอามาจากไหน  มาได้ยังไง  บางรายบอกว่าผัวเอามาให้ ก็คาดคั้น  ผัวเอามาจากไหน

 

และที่บอกว่าไม่ยึด  ก็ไม่มีใครเชื่อ  โดยเฉพาะผู้ใช้กัญชาเป็นยาอยู่แล้ว  เขากลัว  ยึดแล้วจะไม่มียาใช้ต่อ

 

ท่านพลเอกประยุทธ์เชื่อมั๊ยครับ  เจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวกับกัญชา  ร้อยคนก็ร้อยความคิด  ร้อยลีลา  ก็ขนาดกฎหมายให้มาแจ้ง   จะนิรโทษไม่เอาผิด  ก็ยังไปจับกัญชาของอาจารย์เดชา ที่มูลนิธิขวัญข้าว สุพรรณบุรี  ยึดกัญชามาหมด 200 ต้น  ยึดน้ำมันกัญชาที่แจกจ่ายคนป่วยมาทั้งหมด เป็นความเสียหายมหาศาล  และวันนี้อาจารย์เดชาก็ยังแจกน้ำมันกัญชาไม่ได้  ท่านให้เป็นหมอพื้นบ้านแล้วจริง  แต่จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่รัฐตรวจและอนุมัติก่อนว่า  น้ำมันกัญชาของเดชารักษาโรคต่างๆได้จริงรึไม่

 

อะไรที่ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ดุลพินิจยุ่งทั้งนั้น

 

ผมถามว่า ถ้า “รัฐมนตรียักษ์”  ไม่ขู่ด้วยการบอกพลเอกประยุทธ์ว่า ถ้าดำเนินคดีอาจารย์เดชาผมจะลาออกจากรัฐมนตรี  ท่านพลเอกประยุทธ์จะสั่ง ปปส.อย่าจับรึไม่

 

เพราะรัฐมนตรียักษ์เล่นแรง

 

พลเอกประยุทธ์ช่วยอาจารย์เดชา  ทำให้สถานการณ์กัญชาพลิกครั้งใหญ่ กลายเป็นดี  ก็แล้วทำไมพลเอกประยุทธ์ไม่ช่วย “อาจารย์ซ้ง” ที่ถูกจับมาจากมูลนิธิขวัญข้าว  คดียังคาอยู่  ต้องวางเงิน 5 แสนบาทประกันตัวออกมา  ทำไมพลเอกประยุทธ์ไม่สั่งตำรวจสุพรรณบุรียกเลิกคดี

 

ท่านพลเอกประยุทธ์อย่าสั่งนะครับ  ถ้าสั่งในคดีอาจารย์ซ้ง  ผมก็กลัวว่า จะมีคนแจ้งความดำเนินคดีพลเอกประยุทธ์  แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม  ขณะนี้อยู่ในชั้นตำรวจจับมาแจ้งข้อหา ก็ถือว่าเข้ากระบวนการยุติธรรมแล้ว

 

การสั่งปปส.อย่าจับผู้แจกน้ำมันกัญชาให้คนป่วย  ก็ลุ้นด้วยนะครับท่าน อาจจะมีคนเล่นงานท่านได้  เพราะไม่รู้ว่านายกรัฐมนตรีมีอำนาจตามกฎหมายข้อไหนไปสั่ง ปปส.อย่าจับ  อัน ปปส.นั้นท่านจับเพราะมีกฎหมายและท่านมีหน้าที่ ไม่จับก็ละเว้น ปปส.โดนดำเนินคดีซะเองได้

 

ดังนั้น…

มีหนทางเดียว

 

พลเอกประยุทธ์ใช้อำนาจพิเศษออกคำสั่งเอากัญชาออกจากกฎหมายยาเสพติดของไทยเสีย สั่งในวันที่ยังมีอำนาจพิเศษอยู่

 

ผมเคยเขียนหนังสือถึงท่านประธานสภาเกษตรกรแห่งประเทศไทย “ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์”  อย่าเพิ่งให้สมาชิกของท่าน 2,300 คนปลูกกัญชานะครับ  แม้จะได้จับคู่กับมทหาวิทยาลัยหรือหน่วยงายรัฐแล้วก็ตาม  รวมทั้งท่าน ผอ.ดาวน้อย แห่งโรงงานยาสูบไทย  ก็อย่าเพิ่งให้ชาวบ้านที่เป็นเครือข่ายปลูกยาสูบส่งโรงงายาสูบทำบุหรี่อยู่ในเวลานี้ปลูกกัญชา   เพราะถ้าตราบใดที่กัญชายังเป็นยาเสพติดในกฎหมายไทย  ท่านจะได้เห็นลีลาของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างน่าตะลึง

 

มีเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยมมาก ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา

 

พลเอกประยุทธ์ถึงเป็นนายกรัฐมนตรีก็ดูแลไม่ทั่วถึง  เจ้าหน้าที่รัฐแต่ละคนมีฤทธาแตกต่างกันไป

 

สมาชิกสภาเกษตรกรฯปลูกกัญชา  ก็จะมีเจ้าหน้าที่อีกหน่วยมาขอตรวจ  ไหนเอาใบอนุญาตมาดูซิ  ได้อนุญาตปลูกพื้นที่เท่าไหร่  ปลูกกี่ต้น  ก็จะนับต้น  กัญชาแห้งที่ตากอยู่เก็บไว้  เจ้าหน้าที่รัฐก็จะชั่ง  และยึดส่วนที่เขาหาว่าเกินโควตาตามอนุญาต

 

ถ้านายทุนใช้ CBD ที่ไม่ใช่สารเสพติด  ผสมสร้างผลิตภัณฑ์อื่นๆในทางการแพทย์ขึ้นมา  ใส่ขวด ใส่กล่อง  ไว้ขาย  เจ้าหน้าที่หน่วยอื่นๆก็จะมาเยือน มาขอตรวจว่าเป็นสาร CBD จริงรึไม่  มี THC ปะปนอยู่มั๊ย  ขอยึดทั้งหมดไปนะ  เอาไปตรวจหาสาร THC  ถ้าไม่เจอก็ค่อยเอามาคืน

 

ท่านพลเอกประยุทธ์เชื่อผมนะครับ  เจ้าหน้าที่รัฐของไทยฤทธาเยอะ

 

ใครดื้อทำธุรกิจกัญชา  ในขณะที่กัญชาเป็นยาเสพติดตามกฎหมายไทย … เจ๊งชัวร์

 

จึงมีหนทางเดียวสำหรับพลเอกประยุทธ์ในขณะนี้

 

ใช้อำนาจพิเศษที่มีอยู่สั่งเอากัญชาออกจากยาเสพติด

 

แล้วพลเอกประยุทธ์จะได้อะไรตอบแทน

 

แผ่นหินแกรนิต

 

ผมขอยืนยันกับท่านนายกรัฐมนตรีไทย  ผมจะเขียนหนังสือยุยงให้เจ้าของไร่กัญชาทุกไร่ในไทย แกะชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  บนแผ่นหินแกรนิตไปติดตั้งไว้ที่หน้าไร่

 

หินแกรนิตไม่สึกไม่กร่อน

 

แม้ผมจะมั่นใจว่า พลเอกประยุทธ์ใช้อำนาจพิเศษเอากัญชาออกจากกฎหมายาเสพติดไทยแน่ แต่ผมกลัวท่านช้า  เงื้อนาน  ในขณะที่เวลาของอำนาจพิเศษสั้นลงทุกวัน

 

ผมจึงขอเชิญชวนนายทุนใหญ่  หรือผู้มีสะตังค์เยอะ   และมีแผนอยู่แล้วจะกระโจนเข้าสู่ธุรกิจกัญชา  กอบโกยร่ำรวยแน่นอน  ก็จงสละเงินของท่านนิดหน่อย  สนับสนุนการเดินขบวนของกัญชาชน 20 พ.ค.2562

 

อาจารย์เดชาบอกว่า มีแผนจะทำยาจากกัญชาแจกคนป่วยให้ครอบคลุม 8 แสนถึง 2 ล้านคน  ก็น่าจะหมายความว่า  มีคนป่วยที่ต้องการใช้ยาจากกัญชาราวๆ 2 ล้านคน

 

และน่าจะมีคนที่ต้องการใช้กัญชาเพื่อ  wellness ใช้กัญชาเพื่อให้ตัวเองเกิดภาวะอารมณ์แห่งความสุข  และใช้กัญชาเพื่อเสริมความงาม  เสริมสมรรถภาพทางเพศ อีกจำนวนหลายล้านคน

 

ล้านคนเดินขบวน 20 วัน 20 คืน  กินเยอะแน่

 

ให้เงินสนับสนุนการเดินขบวนของกัญชาชนเถิดครับ

 

ไม่สูญ

 

ฉลามสายเขียว

2 พฤษภาคม 2562

Matemnews.com