นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำหลักฐานเพิ่มเติมไปมอบให้สำนักงาน กกต. เป็น ครั้งที่ 5 เมื่อบ่ายวันที่ 3 พ.ค.2562 ว่าด้วยการถือหุ้นสื่อ บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า
“การไม่นำเช็คเข้าบัญชี เป็นการจงใจหลีกเลี่ยงการทำนิติกรรมการโอนหุ้นหรือไม่ หลังจากฟังการชี้แจงของนายธนาธรผ่านสื่อแล้ว ยังมีข้อสงสัยเรื่องการนำเช็คธนาคารเข้าบัญชี ผมจึงตั้งประเด็นมาเสนอให้กกต.ตรวจสอบเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่า เป็นการหลีกเลี่ยงนิติกรรมการโอนหุ้นหรือไม่ หากหลักฐานที่ผมนำเสนอไม่มีน้ำหนักเพียงพอก็ยกคำร้องได้ แต่ที่มายื่นเพิ่มเติม เพื่อต้องการให้เนื้อหาครบถ้วนสมบูรณ์ กรณีมีข่าวว่ากกต.จะประกาศรับรองผลนายธนาธรไปก่อน แล้วค่อยสอยทีหลัง ก็เป็นสิทธิ์ของกกต.ตามกฎหมายที่จะดำเนินการได้ หากตรวจสอบพบการกระทำผิดภายหลังการประกาศผล ก็สามารถร้องศาลรัฐธรรมนูญได้ เรื่องนี้ยังมีเวลาอีกเป็นปีที่จะดำเนินการได้ ประเด็นนายคารม พลพรกลาง ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และพวก แจ้งความ สน.ทุ่งสองห้องง ดำเนินคดีตัวผมในข้อหายื่นคำร้องเท็จต่อพนักงานสอบสวน ก็ เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ผมก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน หากอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ผมก็จะฟ้องกลับตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 และมาตรา 174 เอาผิดผู้ไปแจ้งความ ผมไม่ได้สะทกสะท้าน พร้อมต่อสู้ตามกฎหมาย คนที่เป็นนักการเมือง จะต้องพร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบ โดยเฉพาะคนที่อ้างว่าเป็นฝั่งประชาธิปไตย ถ้ากลัวการตรวจสอบจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะทำหน้าที่โปร่งใส และสามารถทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนตามที่เขาโฆษณาไว้ ขณะนี้ผมได้ตรวจพบหลักฐานการกระทำผิดในเรื่องการถือหุ้นสื่อของนายธนาธร เพิ่มเติมนอกจากกรณีหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด มั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดนายธนาธรได้ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการหาหลักฐาน และตรวจสอบ หลังวันที่ 7 พ.ค. จะมีอะไรมันๆ ดีๆ เกี่ยวกับนายธนาธรอีก ประเภทช็อคไปเลย บอกแล้วว่าอย่ามาทะเลาะกับศรีสุวรรณ”
ตอนเช้า นายคารม พลพรกลาง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ มาที่ กกต.เรื่องคัดค้านคำร้องของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กรณียื่นสอบผู้สมัคร ส.ส. และว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จำนวน 11 คน ว่าถือหุ้นสื่อ อาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ ม.98 (3) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ตาม ม.42 (3) และให้ระงับการประกาศผลคะแนน และเพิกถอนสิทธิผู้สมัคร ตาม ม.151 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่
นายคารม แถลงแก่นักข่าว ว่า ตามที่ตน และผู้สมัคร ส.ส. รวม 11 คน ได้ไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีต่อนายศรีสุวรรณ เนื่องจากเป็นการยื่นร้องอันเป็นเท็จ ในส่วนของตนบริษัทได้ยกเลิกไป 5 ปีแล้ว การเป็นผู้ถือหุ้นจึงไม่มีอยู่ และได้ไปยื่นคำขอจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ลช.1) กระทรวงพาณิชย์ ตามแบบฟอร์ม ลช.1 แล้ว ส่วนผู้สมัครอื่นที่ถูกร้อง บางรายใช้แบบฟอร์มสำเร็จรูป บางรายก็ปิดบริษัทเป็นบริษัทร้างไปแล้ว บางรายก็ขายหุ้นและมีการยืนยันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว จึงนำเอกสารการแจ้งความเข้ายื่นให้ กกต. เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาคำร้องของนายศรีสุวรรณ และเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง ไม่ใช่แก้เกี้ยว แต่ต้องการทำให้เป็นบรรทัดฐาน คนที่มาร้องตรวจสอบต้องรับผิดชอบด้วย การตรวจสอบทำได้ แต่อย่าเกินเลย
matemnews.com
3 พฤษภาคม 2562
