วันที่ 21 พ.ค.62 กลุ่มผู้รับเหมารายย่อยโครงการก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักข้าราชการตุลาการ บริเวณเชิงดอยสุเทพ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จำนวนกว่า 10 ราย เดินทางมายังศูนย์ดำรงธรรมเพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีร้องเรียนให้ช่วยเหลือเรื่องทวงค่าจ้างมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท จากบริษัทคู่สัญญากับสำนักงานศาลยุติธรรม
โดยหนึ่งในผู้รับเหมารายย่อย เปิดเผยว่า ตนกับพวกมายื่นเรื่องให้ศูนย์ดำรงธรรมช่วยเหลือนานกว่า 6-7 เดือนแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงมาติดตามเรื่องและทวงคืนหนังสือที่ร้องเรียนไป เพื่อหารือกันอีกครั้งว่าจะหาช่องทางใดต่อไปในการเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากผลกระทบที่เกิดขึ้น พวกตนมีไม่ต่ำกว่า 30 ราย เงินค่าจ้างที่คงค้างรวมกว่า 10 ล้านบาท ทุกคนเดือดร้อนมาก เพราะต้องกู้เงินมาลงทุนซื้ออุปกรณ์ในการก่อสร้างหลังคา เหล็กดัด มุ้งลวด และบันไดหนีไฟ
ในขณะที่ผู้รับเหมาอีกราย กล่าวว่า ตนต้องนำบ้านเข้าธนาคาร นำรถยนต์ไปค้ำประกันเงินกู้ออกมาปิดงานโครงการก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักข้าราชการตุลาการ เพราะคิดว่าเป็นหน่วยงานรัฐใหญ่ ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร แต่กลับถูกหลอกให้ทำงานจากบริษัทคู่สัญญา ซึ่งทางบริษัทคู่สัญญารับเงินงวดสุดท้ายกว่า 150 ล้านบาท ปิดงานไปแล้ว แต่ไม่ยอมจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมารายย่อย
ส่วนความคืบหน้า การย้ายที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักข้าราชการตุลาการไปก่อสร้างใหม่ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย โดยขอใช้ที่ดินจากกรมวิชาการเกษตร หลังคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมมีมติเห็นชอบให้ทำความตกลงและดำเนินการของบประมาณจากรัฐบาลมาจัดสร้างใหม่ แต่เรื่องดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้า รวมทั้งการดำเนินการกับสิ่งปลูกสร้างในแนวเขตป่าเดิมบริเวณเชิงดอยสุเทพว่าจะมีการรื้อถอนและเข้าฟื้นฟูป่าให้กลับมาสมบูรณ์ต่อไปอย่างไร
