วันที่ 23 พ.ค.62 ผู้เสียหายคดีแชร์ลูกโซ่เกือบ 10 คน เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และขอความช่วยเหลือต่อ ศูนย์บริการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนเฉลิมพระเกียรติ อัยการสูงสุด หลังถูกหลอกร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่กับหลายริษัท เช่น บริษัทเวิลด์ บิท เทรด / โอดี แคปปิตอล สูญเงินจำนวนมาก แต่คดีไม่มีความคืบหน้า และถูกผู้ต้องหาฟ้องกลับ
นางพยุง เอี่ยมศรี 1 ในผู้เสียหายเล่าว่า ได้ถูกชักชวนให้ลงทุนเงินบิตคอยน์ กับบริษัท World Bit Tread อ้างจะได้ผลตอบแทนร้อยละ 1 ต่อวัน และจะจ่ายผลตอบแทนตั้งแต่ 300 วัน ได้เงินต้นและกำไรคืนทั้งหมด จึงหลงเชื่อและร่วมลงทุนจนสูญเงินไปกว่า 200,000 บาท แต่เมื่อครบกำหนดกลับปิดเวปหลบหนีและไม่จ่ายผลตอบแทน ตนเองจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี จนตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ แต่ผู้ต้องหากลับได้รับการประกันตัวออกมา และฟ้องกลับผู้เสียหายในข้อหาแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาท ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยในวันนี้ได้เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุดให้การช่วยเหลือทางคดี
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่ Od Capital ที่หลอกให้ผู้เสียหายลงทุนหุ้นในบริษัท อ้างว่ามีธุรกิจหลายอย่าง อาทิ หุ้นทองคำ เสนอเงินปันผล 10% จากเงินลงทุนในระยะเวลา 24 เดือน และมีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติม เข้าร้องขอความช่วยเหลือด้วย เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้าเช่นกันและมีความล่าช้า โดยในขณะนี้ผ่านมา 1 ปีแล้ว แต่คดีความยังอยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวน และยังไม่มีการส่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล อีกทั้งผู้ต้องหายังข่มขู่ไม่ให้ผู้เสียหายรายอื่นเข้าแจ้งความ โดยอ้างว่าแจ้งความไปก็ไม่ได้เงินคืน
ทั้งที่คดีนี้มีผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 5,000 คน มูลค่าความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท โดยผู้เสียหายที่เข้าร้องขอความช่วยเหลือในวันนี้ ก็มีมูลค่าความเสียหาย 3 ล้านบาทแล้ว บางคนเอาที่ดินไปจำนอง บางรายต้องกู้เงิน บางรายเป็นหญิงชรานำเงินเก็บทั้งชีวิตมาร่วมลงทุน จนไม่มีเงินเหลือ เมื่อคดีไม่คืบหน้า ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
ทั้งนี้ทางอัยการสูงสุดได้รับเรื่องเอาไว้ ก่อนจะพิจารณาตามอำนาจของอัยการสูงสุดต่อไป
