
กรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย ผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน พร้อมกล่าวหาว่าเป็นเครื่องมือในการทำการจารกรรม และมีผู้ประกอบการจากหลายประเทศที่งดทำธุรกิจร่วมกับหัวเว่ย เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ
แต่นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด แห่งมาเลเซีย กล่าวในระหว่างการประชุมนานาชาติว่าด้วยอนาคตแห่งเอเชีย ที่กรุงโตเกียว ว่ามาเลเซียจะใช้ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้จะยอมรับว่ามีความกังวลด้านความมั่นคง แต่ไม่มีผลให้ต้องงดใช้ผลิตภัณฑ์ เพราะมาเลเซียไม่มีความลับ นอกจากนี้ หัวเว่ยยังมีการเข้าถึงงานวิจัยมากกว่ามาเลเซีย ดังนั้นมาเลเซียจึงควรใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ กล่าวว่า สหรัฐฯ และชาติตะวันตกต้องยอมรับว่าตอนนี้หลายชาติในเอเชียสามารถผลิตสินค้าคุณภาพดีและมีความสามารถในการแข่งขัน พวกเขาจึงไม่ควรถูกข่มขู่คู่แข่งทางธุรกิจ อีกทั้งเห็นว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนอาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนอ้างอำนาจอธิปไตยทับซ้อนกับประเทศ อื่นๆ ในภูมิภาคนี้ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการรักษาความสงบในพื้นที่นี้ เพราะความขัดแย้งแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจลุกลามไปเป็นความรุนแรงได้โดยง่าย