“ขณะนี้ อย.ได้เปิดศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา เป็นลักษณะของการรายงานผลจากการใช้ จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
- กลุ่มประชาชนทั่วไป สามารถเข้ามารายงานผลได้ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ อย. โดยไม่ต้องใช้ยูสเซอร์เนม พาสเวิร์ด แต่อย่างใด ขอยืนยันว่าในการเข้ามารายงานนั้นเราไม่ได้สอบถามชื่อจริง นามสกุลจริง หรือต้องแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีการตรวจสอบหรือเอาผิดอะไร แค่รายงานว่าได้ผลิตภัณฑ์กัญชาจากที่ไหน ใช้แล้วผลเป็นอย่างไร มีผลข้างเคียงหรือไม่ เป็นต้น
กลุ่มที่ 2,3,4 จะต้องใช้ยูสเซอร์เนม และพาสเวิร์ด ผ่านเข้าไปรายงานผล โดย 2 เครือข่าย ที่ช่วยดูแลผลกระทบจากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาของประชาชน เช่น จะมีการประสานงานไปยัง สภาเภสัชกรรม เพื่อขอความร่วมมือในการรับรายงานการใช้และผลกระทบจากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาด้วย
รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ ผู้รับอนุญาต หรือเครือข่าย ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตใช้อยู่แล้ว เช่น มีคนไข้ไปสถานพยาบาลแล้ว อาการเป็นอย่างไร รักษาอย่างไร ผลเป็นอย่างไร
- กลุ่มผู้วิจัย ซึ่งตามปกติก็ต้องมีการรายงานตรงไปตรงมา เป็นจริยธรรมของการทำวิจัย ถ้ามีปัญหาก็ต้องรายงานเพื่อให้เกิดการแก้ไข
- เป็นการใช้โปรแกรมพิเศษที่เฝ้าระวังใกล้ชิดใน 2 กลุ่มคือ กลุ่มสารสกัดกัญชาน่าจะได้ประโยชน์ในการควบคุมอาก ควรมีข้อมูลวิชาการสนับสนุน หรือวิจัยเพิ่มเติม ในประเด็นความปลอดภัยและประสิทธิผลเพื่อสนับสนุนการนำมาใช้ และกลุ่มที่สารสกัดกัญชาอาจมีประโยชน์ในการรักษา แต่ยังขาดข้อมูลจากงานวิจัยสนับสนุนที่ชัดเจนเพียงพอในด้านความปลอดภัยและประสิทธิผล ต้องศึกษาวิจัยในหลอดทดลอง และสัตว์ทดลองก่อนนำมาศึกษาวิจัยในมนุษย์
ผมได้นำเสนอในที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเช้าวันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแล้ว เพราะเห็นว่าระบบการรายงานนี้เป็นประโยชน์ ต่อการนำรายละเอียดที่ได้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ดูแนวโน้มความปลอดภัยของผลิตจากกัญชาภายในประเทศ”
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงข่าว 6 มิ.ย.2562
matemnews.com
6 มิถุนายน 2562