วันที่ 17 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวฮ่องกงเกือบ 2 ล้านคนออกมาชุมนุมครั้งใหญ่ครั้งที่ 3 เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) เพื่อเรียกร้องให้ทางการยกเลิกการผลักดันร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างถาวร และกดดัน แคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษ ให้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุประท้วงที่เกิดขึ้น
แกนนำจัดการประท้วงระบุว่า มีประชาชนทั่วไป นักเรียนนักศึกษา และพนักงานบริษัทห้างร้าน ออกมาชุมนุมปิดถนนมากเกือบ 2 ล้านคน ซึ่งหากตัวเลขนี้ได้รับการยืนยัน จะทำให้การประท้วงครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของฮ่องกง มากกว่าทั้งเหตุการณ์ส่งมอบคืนเกาะฮ่องกงของสหราชอาณาจักรให้กับจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 1997 และเหตุการณ์ปฏิวัติร่มเมื่อ 5 ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ตำรวจฮ่องกงประมาณการว่าตัวเลขผู้ประท้วงที่ออกมาชุมนุมเมื่อวานนี้น่าจะอยู่ที่ราวๆ 338,000 คน
After last week’s sea of white, the streets are a sea of black #antiELAB pic.twitter.com/RsWjEO6eWX
— Julia Hollingsworth (@juliaholli) June 16, 2019
แกนนำผู้ประท้วงนำโดยกลุ่มแนวหน้าเพื่อสิทธิมนุษยชนของพลเรือนในฮ่องกงประกาศเดินหน้าจัดการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลฮ่องกงจะระงับกระบวนการผ่านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนชั่วคราว โดยพวกเขายืนยันว่าทางการต้องยกเลิกการพิจารณากฎหมายที่เป็นชนวนเหตุของปัญหาอย่างถาวร พร้อมกับเรียกร้องให้ แคร์รี ลัม ผู้บริหารฮ่องกงลาออกจากตำแหน่งด้วย
There are thousands of protesters outside Hong Kong’s Victoria Park #HongKongextraditionbill pic.twitter.com/wpz8EWKxJ6
— Helen Regan (@hcregan) June 16, 2019
ด้าน แคร์รี ลัม ได้กล่าวขอโทษประชาชนออกสื่อเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงได้ปฏิเสธคำขอโทษ หลังการผลักดันกฎหมายของรัฐบาลทำให้เกิดความหวาดวิตกเกี่ยวกับอิทธิพลทางการเมืองของจีน โดยกฎหมายดังกล่าวจะเปิดช่องให้ทางการสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยหรือผู้ลี้ภัยไปรับการสอบสวนที่จีนแผ่นดินใหญ่ได้ ซึ่งอาจกลายเป็นเครื่องมือของจีนในการปราบปรามผู้เห็นต่าง และกำจัดศัตรูทางการเมือง
ที่มา สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น , บีบีซี
