หลังจากที่เฟชบุ้คจอมแฉชื่อดัง “กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ” ได้โพสต์เผยแพร่หนังสือของ “พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์” อดีตรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 36/2550 ที่ถูกคำสั่งกระทรวงยุติธรรม ที่ 536/2559 ลงวันที่ 1 พ.ย.2559 ย้าย ให้ไปเป็น ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึง “ประธานคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม” เมื่อ 8 พ.ย.2559 พร้อมขอตำแหน่งคืนเนื่องจากเป็นการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม
ในหนังสือร้องเรียนมี 5 หน้า เขียนบรรยายละเอียดว่า มี 2 คน เข้ามาแทรกแซงคดี พูดจาหว่านล้อมให้แจ้งข้อหา “รับของโจร” นายโอ๊ค – พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของ นายทักษิณ ชินวัตร ในคดีปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย โดยนายตำรวจคนหนึ่งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีได้พูดกับ พ.ต.ท.สมบูรณ์ว่า แจ้งข้อกล่าวหาไปก่อน เพราะคดีอาญาเป็นระบบกล่าวหา ไม่ใช่ระบบไต่สวน แล้วให้นายพานทองแท้ฯ เอาพยานหลักฐานต่างๆ ไปแก้ข้อกล่าวหาเอง ฯลฯ ” แต่ก็ไม่ยอมทำตามเนื่องจากผลการสอบสวนของคณะะพนักงานสอบในคดีนี้ไม่มีหลักฐานว่าเป็นการรับของโจร ต่อมาก็ถูกย้ายเข้าทำเนียบรัฐบาล จึงขอความเป็นธรรมด้วย
เพจดัง กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ ระบุด้วยว่า โอ๊ค คือ ชินวัตรรายต่อไปที่จะเป็นเหยื่อ โดยจะมีการแจ้งข้อหาในเร็วๆนี้ หลังจากจัดการปูยิ่งลักษณ์ให้หนีไปแล้ว
ต่อมาเมื่อตอนเช้าวันที่ 6 ก.ย.2560 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ แถลงแก่ผู้สื่อข่าวว่า ว่า ไม่เป็นความจริง ใน เวลา 13.30 น. วันนี้ คณะพนักงานสอบสวน ประกอบด้วย อัยการสำนักการสอบสวน พนักงานสอบสวนกองคดีการเงินการธนาคาร และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะที่ปรึกษาคดีพิเศษ มีกำหนดประชุมตรวจสอบหลักฐาน ในสำนวนคดีว่าครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือไม่ และยังมีประเด็นใดต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ที่ผ่านมาไม่เคยมีธงในการสอบสวนและได้พูดมาโดยตลอดว่า ให้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน หากพบมูลความผิดก็ต้องสั่งฟ้อง หรือในกรณีที่ไม่พบมูลความผิดต้องสั่งไม่ฟ้อง ทั้งนี้ไม่ว่าจะสั่งคดีอย่างไรก็ต้องมีคำตอบอธิบายให้ประชาชนรับฟังได้ว่า เหตุผลในการสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องเป็นอย่างไร
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ อดีตรองอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งถูกคำสั่งตามมาตรา 44 ย้ายเป็นผู้ตรวจราชการพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) โดยระบุว่าถูกย้ายเพราะไม่ยอมสั่งฟ้องนายพานทองแท้ในคดีฟอกเงิน นั้น คำร้องทุกข์ของพ.ต.ท.สมบูรณ์ ยังไม่ส่งมาที่ดีเอสไอ จึงยังไม่เห็นรายละเอียดในคำร้อง หากตรวจสอบพบข้อความพาดพิง หรือทำให้องค์รกรได้รับความเสียหาย ก็ต้องฟ้องคดีเพื่อเอาผิด ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการสอบสวนคดี
matemnews.com 6 กันยายน 2560