เทคโนโลยีนี้ไม่ได้ตรวจมะเร็งได้ทีละชนิดเท่านั้น แต่สามารถค้นหาเซลล์มะเร็งทั่วร่างกายได้ถึง 13 ชนิดพร้อมกัน ได้แก่ มะเร็งสมอง มะเร็งปอด มะเร็งช่องท้อง มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมน้ำดี มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน
มีการเปิดเผยวิธีการตรวจว่าใช้ “เทคโนโลยีการตรวจไมโครอาร์เอ็นเอ” (microRNA) ทำให้เกิดความแม่นยำถึงร้อยละ 95 และสามารถตรวจพบเซลล์ร้ายหรือเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มแรก หรือที่เรียกกันว่าระยะที่ 1 ดีกว่าวิธีตรวจหามะเร็งที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบันที่ยังไม่สามารถตรวจมะเร็งในระยะเริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
( อ่านเพิ่มเติม นิเคอิ เอเชียน รีวิว)
ศ.พญ.ดร.ณัฏฐิยา หิรัญกาญจน์ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ อธิบายว่า “วิธีการตรวจด้วยไมโครอาร์เอ็นเอ คือการตรวจหาสารที่อยู่ในเลือด เป็นระดับสารพันธุกรรมที่เป็นโมเลกุลขนาดเล็กมาก แค่เซลล์มะเร็งเริ่มก่อตัวขึ้นมา ก็สามารถตรวจพบได้แล้ว
ส่วนตัวแล้วรู้สึกดีใจที่ได้ข้อมูลมาว่าบริษัทญี่ปุ่นตั้งใจผลิตเครื่องมือตรวจหามะเร็งนี้มาขายในราคาเพียงแค่ 3,000 กว่าบาทเท่านั้น
“หมายความว่าถ้าชุดตรวจนี้ราคาไม่แพง พวกเราสามารถสั่งซื้อเข้ามาตรวจหาเซลล์ที่เจริญผิดปกติในร่างกายผู้ป่วยคนไทยได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยให้การรักษาทำได้ง่าย ด้วยราคาเท่านี้ คนไทยที่ถือสิทธิบัตรทองก็น่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ เป็นการตรวจที่มีความคุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะดีกว่าปล่อยให้เซลล์มะเร็งมีขนาดใหญ่โตหรือขยายลุกลามไปมาก ทำให้รัฐต้องจ่ายค่ารักษามะเร็งแพงขึ้นไปอีกหลายสิบเท่า” พญ.ณัฏฐิยา กล่าว
ช่วงนี้คงต้องรอผลการวิจัยขั้นสุดท้ายจากศูนย์มะเร็งแห่งชาติของญี่ปุ่น ที่ตั้งเป้าหมายว่าอีกไม่เกิน 3 ปี หน่วยงานรัฐบาลที่รับผิดชอบน่าจะอนุญาตให้ผลิตเครื่องตรวจมะเร็งด้วยเลือดหยดเดียวนี้จำหน่ายทั่วไปได้
ทุกวันนี้คนทั่วโลกต้องควักเงินจ่ายค่า “ยารักษามะเร็ง” ปีละไม่ต่ำกว่า 9 ล้านล้านบาท เฉพาะประเทศไทยตัวเลขทะลุไปถึง 8 หมื่นล้านบาทแล้ว หวังว่าตอนสั่งเข้ามาในไทย กระทรวงสาธารณสุขจะยกมือเห็นชอบให้รวมอยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพของคนไทยทุกคน ไม่ใช่ให้เป็นเฉพาะสิทธิของคนรวยหรือข้าราชการเท่านั้น
เพราะเซลล์มะเร็งร้าย “ยิ่งตรวจพบเร็ว ยิ่งจ่ายค่ารักษาน้อยลง”!
ข้อมูล เนชั่น / นิเคอิ เอเชียน รีวิว