โศกนาฏกรรมสีน้ำเงิน

ช่างภาพ Francis Perez บันทึกภาพชุดที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตของเขาชุดนี้ที่หมู่เกาะ Canary ของสเปน หลังได้รับแจ้งจากว่ามีวาฬตัวหนึ่งส่งเสียงร้องผิดปกติและว่ายอย่างยากลำบาก Francis พร้อมกับสัตวแพทย์ และนักชีววิทยาทางทะเลจึงพยายามเข้าไปช่วยชีวิตวาฬตัวนี้ซึ่งเป็นวาฬนำร่อง (Pilot whale) วัยรุ่น

แต่ทั้งสามคนก็ต้องใจสลายเมื่อเข้าไปใกล้ๆ และได้เห็นสภาพหางที่ถูกตัดขาดเกือบเป็นสองท่อน วาฬส่งเสียงร้องอย่างโหยหวนด้วยความเจ็บปวดขณะพยายามสะบัดหางด้วยความทุลักทุเล

เป็นที่ชัดเจนว่าแผลดังกล่าวเกิดจากการถูกเรือชน และหางคงถูกใบพัดเรือเข้าอย่างจัง ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเป็นเรือประเภทไหน แต่แน่นอนว่าคงแล่นด้วยความเร็วสูงพอสมควร 

แผลที่รุนแรงขนาดนี้ไม่มีทางที่วาฬตัวนี้จะมีชีวิตต่อไปได้ พวกเขาจึงตัดสินใจช่วยกันนำวาฬตัวดังกล่าวขึ้นมาบนเรือเพื่อทำการุณยฆาตด้วยการฉีดยา เพื่อเจ้าวาฬผู้เคราะห์ร้ายจะได้ไม่ต้องทรมานอีกต่อไป

สำหรับ Francis และทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ มันเป็นโศกนาฏกรรมแสนเจ็บปวดที่คงไม่มีวันลืมได้ และทำให้ตระหนักว่าปัญหาเรือชนสัตว์ทะเลหายากนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ และมักจะนำมาซึ่งความตายที่แสนทรมาน เพียงแต่จะมีคนไปพบหรือไม่เท่านั้นเอง

การควบคุมความเร็วของเรือในพื้นที่ที่เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเลหายากเช่น วาฬ โลมา พะยูน เต่าทะเล โดยเฉพาะในพื้นที่อนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า จึงเป็นมาตรการอนุรักษ์ที่มีความสำคัญมาก เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่ไม่ควรจะเกิด

ปัจจุบันสัตว์ทะเลหายากหลายชนิดต้องเผชิญกับภัยคุกคามมากมายทั้งจากประมงผิดกฎหมาย มลภาวะ น้ำเสีย และขยะพลาสติกจำนวนมากในทะเล เมื่อสัตว์ทะเลหลงกินขยะพลาสติกเข้าไปแล้วก็ต้องตายอย่างทรมานเพราะย่อยไม่ได้เกิดอุดตันในลำไส้ โชคร้ายสุดๆ ก็ถูกเรือชนอีก

เห็นภาพนี้แล้วก็น่าเสียใจ และอดไม่ได้ที่จะคิดถึงน้องมาเรียมกับฝูงพะยูนแห่งทะเลตรัง เหล่าวาฬบรูด้าแห่งอ่าวไทย หรือแม้แต่ฝูงวาฬนำร่องที่พบได้บ่อยบริเวณเกาะเต่าและระหว่างหมู่เกาะสิมิลัน-สุรินทร์ หวังว่าทุกฝ่ายจะช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดเช่นนี้