Home มาเต็มกัญชา เชื่อใครดี … วิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชา 5000 ต้นตำรจบุกจับ

เชื่อใครดี … วิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชา 5000 ต้นตำรจบุกจับ

1433
0
SHARE

 

 

เฟชบุ้ค หลักเมือง ฉันรักชุมพร#CharmingChumphon

https://bit.ly/31M0K0T

 

ตำรวจจับกุมผู้เสพ ก่อนขยายผลแหล่งกัญชา ถึงกับผงะเจอกว่า 2 พันต้น และต้นกล้าอีกว่า 4 พันกล้า นับเป็นการจับกุมกัญชารายใหญ่ที่สุดของจังหวัดชุมพร

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 20 มิถุนายน 62 พ.ต.อ. ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.ท่าแซะ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปรีดา คอนกำลัง รอง ผกก. สส. พร้อมด้วย พ.ต.ต.สกฤชญ สุขนิตย์ สว.สส. ร.ต.อ.ไชยยุทธ์ จันทร์เพ็ง รอง สวป , ร.ต.ท.นพพร ประธาน รอง สว.สส นำกำลังเข้าตรวจสอบแปลงปลูกกัญชากลางสวนปาล์ม ในซอยร่วมมิตร หลังจากผู้เสพยาเสพติดรายหนึ่งที่ถูกจับกุมได้ให้การซัดทอดว่าเป็นแหล่งจำหน่ายกัญชารายใหญ่

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบว่าสวนปาล์มดังกล่าว อยู่ห่างจากถนนสายเพชรเกษม เข้าไปประมาณ 500 เมตร บริเวณด้านหน้าของสวนติดถนนคอนกรีตในซอยร่วมมิตร มีประตูแบบไม้ยกกันทางเข้าเอาไว้ และพบว่าสถานที่ดังกล่าวอยู่ ม.2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของ สภ.สลุย จึงได้ประสาน พ.ต.ท.สุนันท์ สมบูรณ์ รอง ผกก.ป.สภ.สลุย นำกำลังเข้าร่วมตรวจสอบ

โดยลึกจากถนนคอนกรีตเข้าไปในสวนปาล์ม ประมาณ 200 เมตร พบบ้านพักอาศัยชั้นเดียวไม่มีเลขที่บ้าน ลักษณะแบ่งเป็นห้องพักให้แรงงานอยู่ จำนวน 5 ห้อง ด้านหน้าเป็นที่โล่ง มีกองไม้กองอยู่จำนวนหนึ่ง ในขณะที่ศาลาขนาดใหญ่ตรงข้ามบ้าน พบมีการเอาผ้าสแลนมาปิดกั้นศาลาไว้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบว่าด้านหลังของสแลน มีต้นกล้ากัญชา สูงประมาณ 10 ซม.บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ วางเรียงเป็นกองยาว จำนวน 3 กองๆละ 700 ต้น รวมทั้งหมด 2,100 กล้า

ลึกเข้าไปในสวนปาล์ม ประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่ยังพบต้นกัญชา ขนาดใหญ่ สูงกว่า 150 ซม.กว่า 1,000 ต้น ปลูกอยู่ภายในกำแพงสแลนสีเขียว สูง 2 เมตร กั้นรอบกว่า 4 ไร่ และมีการต่อท่อให้น้ำต้นกัญชาโดยรอบแปลง และนอกจากนี้ยังพบกล้ากัญชา อีกกว่า 1,000 ถุง อยู่ในแปลงเพาะชำ รวมทั้งหมดทั้งต้นกัญชาและต้นกล้า กว่า 5,000 ต้น เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง

ต่อมานายภูษิต ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่พร้อมหอบเอกสารหลักฐานต่างๆประกอบด้วยหนังสือแสดงการมีไว้ครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา ที่นายภูษิต ได้รับจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 62 ระบุในนามกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชุมชนบุปผาราชันย์ ชุมพร การครอบครองเมล็ดพันธุ์กัญชา จำนวน 2,000 เม็ด เอกสารบันทึกความเข้าใจความร่วมมือดำเนินงานวิจัยและพัฒนาระหว่างวิสาหกิจชุมชนชุมชนบุปผาราชันย์ ชุมพร กับวิทยาลัยการแพทย์แผนโบราณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางรัฐบาลให้ไปขึ้นทะเบียน ตนเองก็ได้ไปขึ้นทะเบียนไว้เพื่อต้องการทำให้ถูกต้อง เพราะวัตถุประสงค์ของตนเองก็ต้องการปลูกกัญชาเพื่อนำมาสกัดน้ำมันกัญชาแจกให้กับผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งที่ยากไร้ และในขณะเดียวกันก็จะแบ่งขายให้กับผู้ที่มีกำลังซื้อและต้องการนำไปใช้รักษา โดยจะขายในราคาขวดละ 500 บาทและ1,000 บาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาดของซีซีที่บรรจุในขวด

นายภูษิต ยังกล่าวยอมรับว่า นอกจากนี้ตนเองก็ยังเพาะกล้าต้นกัญชา ด้วยวิธีตัดกิ่งปักชำ เพราะเห็นว่าต้นแข็งแรงกว่า ได้ผลกว่าเอาเมล็ดมาปลูก ซึ่งต้นกล้า ที่เพาะชำเอาไว้ เพียง 1 เดือนก็จะขายได้ในราคาต้นละ 2-300 บาท ซึ่งก็มีคนมาขอซื้ออยู่ตลอด จึงต้องเร่งเพาะชำขาย ซึ่งตนเองไม่ได้หวังผลกำไรอะไร เพียงต้องการให้ทุกคนได้นำกัญชาที่มีไปสกัดเอาน้ำมันมาใช้เพื่อรักษาโรค และการที่ตนเองกระทำอยู่นี้ไม่ถูกต้อง ไม่ว่ากฎหมายซึ่งยังไม่ผ่าน และจำหน่าย จ่ายแจกอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งตนก็ยอมรับ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายภูษิต ฐานมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ก่อนจะประสาน พันตรี สังคม รองมาลี ตำแหน่งผบ.ชป.1มว.รส.บก.ควบคุม มทบ.44 และนายอำนาจ เตชวรรณโต ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอท่าแซะนำกำลังเข้าถอนต้นกัญชา เพื่อนำไปรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐานในคดีต่อไป

 

Matemnews.com

21 มิถุนายน 2562