นักการเมืองยูเครนและนักการทูตต่างชาติเข้าร่วมเดินขบวนหลายพันคนเพื่อความภาคภูมิใจของเกย์ในเคียฟในวันอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดและสงบสุขที่สุดในประเทศโซเวียตในอดีต
ฝูงชนของผู้คนจำนวนมากแต่งกายด้วยชุดสีสดใสขบวนแห่ไปตามถนนในใจกลางเมืองหลวงของยูเครนถือป้ายบอกว่า พวกเขาถูกขนาบข้างด้วยหมวกวงหนาของตำรวจในหมวกนิรภัย แต่ไม่มีสัญญาณของความรุนแรงแม้จะมีผู้ประท้วงเพียงไม่กี่ร้อยคน
การเดินขบวนของวันอาทิตย์ในเคียฟเป็นส่วนหนึ่งของ“ Pride Month” ฉลองโดยคนเลสเบี้ยนเกย์กะเทยและผู้ข้ามเพศ (LGBT) ทั่วโลก
ประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelenskiy อดีตนักแสดงตลกที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้วได้ส่งเสริมวัฒนธรรมที่อดทนโดยกล่าวว่าเขายืนหยัดเพื่อความเสมอภาคและเสรีภาพของทุกคน
“ ความปรารถนาของเราคือการถ่ายทอดให้คนส่วนใหญ่ทราบว่า LGBT นั้นเป็นเรื่องปกติ” Eduard ศิลปินรอยสักอายุ 17 ปีบอกกับรอยเตอร์
“ ฉันมีส่วนร่วมเป็นครั้งที่ห้า ยูเครนกำลังก้าวหน้าอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาความปลอดภัยและองค์กรดีขึ้นมาก”
สำนักงานของ Zelenskiy เรียกร้องให้ตำรวจป้องกันความรุนแรงและรับประกันความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมในเดือนมีนาคมของความเสมอภาค
“ รัฐธรรมนูญของยูเครนระบุว่าประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเท่าเทียมกัน” โพสต์ดังกล่าวโพสต์บนหน้า Facebook ในเช้าวันอาทิตย์
Ruslana Panukhnyk หนึ่งในผู้จัดงานเดินขบวนของความภาคภูมิใจของเกย์ประจำปีของทุนบอกกับผู้สื่อข่าวหลังจากเหตุการณ์ที่มีผู้เข้าร่วมประมาณ 8,000 คนมากกว่า 5,000 คนเมื่อปีที่แล้ว
“ เราพอใจกับความร่วมมือกับตำรวจ มีเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไม่มีการบาดเจ็บ” เธอกล่าว
“ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราคือสิทธิมนุษยชน”
“ ขอบคุณตำรวจและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ ที่ปกป้องเหตุการณ์ความภาคภูมิใจของวันนี้ในเคียฟ” Judith Gough เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำยูเครนที่เข้าร่วมการเดินขบวนเขียนไว้ในทวีต
เธอโพสต์ภาพของตัวเองและทูตตะวันตกคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมในงาน
รัฐบาลได้เพิ่มการสนับสนุนสิทธิ LGBT ตั้งแต่ผู้นำที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกเข้ามามีอำนาจในปี 2014 แต่นักวิจารณ์กล่าวว่าทัศนคติแบบปรักปรำยังคงแพร่หลาย
เกือบ 47% ของ ชาวยูเครน คิดว่าสิทธิของชนกลุ่มน้อยทางเพศควรถูก จำกัด ในขณะที่ 37.5% ไม่เห็นด้วยกับข้อ จำกัด และ 15.6% ไม่มีความเห็นตามการสำรวจที่ตีพิมพ์โดยองค์กรริเริ่มประชาธิปไตยแนวความคิดประชาธิปไตยในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทั้งนี้จากการสำรวจทั้งหมด 1,998 คน
ที่มา สำนักข่าวรอยเตอร์