เป็นอีกหนึ่งงานรับรางวัลที่ใครหลายๆ คนตั้งตารอคอยชื่นชมความสำเร็จในแต่ละปี กับสุดยอดแนวคิดและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ไทยสู่มาตรฐานอาเซียน ในงาน “Brilliant Asean Product Awards 2017” พร้อมเชิดชูเกียรติคุณให้กับผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม และทรงคุณค่ากับโล่รางวัลอันทรงเกียรติ ทั้ง ศิลปิน-ดาราและเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ควรค่ากับรางวัลในปี 2017 นี้ ณ ชั้น C โรงละครเดอะบาซาร์ เธียเตอร์ สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดา ไปเมื่อวานก่อน
โดยครั้งนี้ถือเป็นการร่วมมือระหว่าง “ชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก” และ “สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดา” ที่เปิดพื้นที่โรงละครเดอะบาซาร์ เธียเตอร์ เนรมิตงานประกาศเกียรติคุณ “Brilliant Asean Product Awards 2017” ด้วยแนวคิดและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ไทยสู่มาตรฐานอาเซียน และได้รับเกียรติจาก “พลเอกเสริมศักดิ์ วิเศษไชยศรี” นายกสมาคมธุรกิจอาเซี่ยน เป็นประธานมอบรางวัล ที่ปีนี้มีทั้งศิลปิน-ดารา ตบเท้าเข้าร่วมรับรางวัลกันคับคั่ง อาทิ “ต้นหอม-ศกุนตลา เทียนไพโรจน์” และ “ดีเจมะตูม-เตชินท์ พลอยเพชร” จากผลิตภัณฑ์ LB (แอลบี) , “มารี เบิร์นเนอร์” จากผลิตภัณฑ์ DareMe (แดร์มี) , “มิ้นท์-ณัฐวรา วงศ์วาสนา” จากผลิตภัณฑ์ ChuuColla (ชู คอลล่า) , “พลอย-พลอยพรรณ ทวีรัตน์” จากผลิตภัณฑ์ Bunny White Collagen (บันนี่ไวท์ คลอลาเจน) , “โยชิ-นิมิต มนัสพล”(โยชิ ซีควินท์) จากผลิตภัณฑ์ Merci (เมอร์ซี่) , “เล็ก-เจษฎา รุ่งสาคร” จากผลิตภัณฑ์ Le Luxe (เลอ ลุค ฟรานซ) , “แม็ก-จิรายุทธ คันธยศ”(แม็ก เดอะสตาร์) จากผลิตภัณฑ์ SongSu (ซองซู) , “ยุ้ย-ปัทมวรรณ” จากผลิตภัณฑ์ PAT Cosmetic (ปัด คอสเมติก) เป็นต้น โดยถือคอนเซปต์เชิดชูแนวคิดและนวัตกรรมไทยสู่มาตรฐานสากลโลก และยังนำรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายร่วมสมทบทุนโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ทั้งยังร่วมมอบทุนการศึกษาแก่น้องๆ ที่ยังขาดแคลนทั่วประเทศไทยของชมรมปันน้ำใจอุ่นไอรักอีกด้วย นับเป็นเกียรติคุณที่ได้รับควบคู่ไปกับความดีมีคุณธรรมตามแบบฉบับของบุคคลดีเด่นที่ควรเชิดชูเป็นอย่างยิ่ง
โดยนางเอกสาว “มารี เบิร์นเนอร์” หนึ่งในผู้ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมก็ได้กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ต้องบอกว่าเป็นเกียรติและดีใจอย่างมากเลยค่ะ ที่ “Brilliant Asean Product Awards 2017” มอบรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมให้กับหนู ต้องบอกก่อนเลยว่าตัวเองเป็นคนบ้าเครื่องสำอางมาก ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว โดนบริษัทเครื่องสำอางหลอกเงินไปเยอะมาก (หัวเราะ) บางทีไม่ได้ลองก็ซื้อ สมมติว่ามีเครื่องสำอางทั้งหมด 1,000 ชิ้น แต่ที่เราชอบและใช้จริงๆ ก็แค่ประมาณ 100 ชิ้น แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งที่เรามี ตอนหลังๆ เลยคิดว่าอยากทำแบรนด์เครื่องสำอางที่สินค้าอาจจะไม่เยอะ ซึ่งแต่ละชิ้นมีข้อดีและจุดขายในตัวเอง DAREME (แดร์มี) ของหนูเปิดมาประมาณ 2 ปีแล้วค่ะซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ก็ไม่ง่าย ต้องใช้ความอดทนเพราะไม่ใช่เราจะขายดี ออกไวทุกสี แต่ก็ต้องมีสินค้ามากพอที่จะให้เขาเลือกได้ ดีใจมากจริงๆ ค่ะ สำหรับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ถือว่าเราประสบความสำเร็จไปอีกขั้นแล้ว และจะพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่งแน่นอนค่ะ”