Home ข่าวทั่วไปรอบวัน การประชุมร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3

การประชุมร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3

921
0
SHARE

 

 

 

http://www.thaigov.go.th/

นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 3 เห็นพ้องเร่งขับเคลื่อนกลไกความร่วมมือเพื่อผลรูปธรรม

วันนี้ (พฤ 7 ก.ย. 60)  เวลา 11.00 น. ณ อาคารสันติภาพ สำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 3 ในวันที่ 7 กันยายน 2560 ประกอบด้วย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายสังคม  พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี  นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พลเอก อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พลเอก ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติและนายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม

 

ฝ่ายกัมพูชา ประกอบด้วย สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา  สมเด็จพิชัยเสนา เตีย บันห์​รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา   นายโอน ปวน มุนีรัตน์รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา  นายฮอง ชวน ณารง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกัมพูชา และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกว่า 26 ตำแหน่ง อาทิ นายซุน จันทอล รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่งกัมพูชา นายโอน ปวน รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา นายเวง ซาคุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงกัมพูชา เป็นต้น

 

พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดว่า ไทยกำลังดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ 20  ปีอยู่ขณะนี้ และ Thailand 4.0 รัฐบาลกัมพูชาก็ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์จตุโกณที่มีความสำคัญสอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การขยายเครือข่ายความเชื่อมโยงด้านการคมนาคม การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน การสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดเล็ก SMEs และกลุ่ม Start up  ตอกจากนี้ ไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่เป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศ โดยขณะนี้ไทยส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาสายอาชีวะ ซึ่งจะผลิตแรงงานที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ สำหรับการพัฒนาประเทศนั้น ไทยยึดนโยบาย Thailand +1 และเน้นความร่วมมือที่เป็นหุ้นส่วนและเดินหน้าไปด้วยกัน และต้องร่วมกันแก้ปัญหาที่มีอยู่ โดยไม่สร้างปัญหาในวันข้างหน้า  ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีหวังว่าการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดีสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการกระชับความร่วมมือและแนวทางสร้างผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนของประเทศทั้งสอง

 

โอกาสนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวให้ข้อคิดเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ว่า การเมืองและความมั่นคงระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ที่ผ่านมามีความร่วมมือระหว่างกันอย่างดียิ่ง ในทุกระดับ ทั้งระดับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม   ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และแม่ทัพภาค รวมทั้งกลไกทวิภาคี คณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC และ RBC และการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งดูแลด้านความมั่นคงชายแดนในส่วนของประชาชนในท้องถิ่นโดยตรง ทำงานอย่างบูรณาการเสริมสร้างพื้นที่ชายแดนให้มีความสงบสุข สองประเทศมีเสถียรภาพ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นบนพื้นฐานของความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ดังนั้น ขอให้ทั้งสองฝ่ายเร่งจัดทำรายชื่อผู้ประสานงาน สำหรับช่องทางการสื่อสารเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน หรือ hotline ในทุกระดับการบังคับบัญชาเพื่อการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนได้อย่างทันท่วงที

 

​การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ได้สำรวจสภาพและที่ตั้งของหลักเขตแดนไปแล้วทั้งสิ้น 68 หลัก จากจำนวนหลักเขตทั้งสิ้น 73 ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ฝ่ายไทยจัดตั้งหน่วยประสานงานชายแดนด้านยาเสพติด หรือ BLO ประจำการที่จุดผ่อนปรนฯ ช่องสายตะกู จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเตรียมรองรับผลกระทบที่อาจมีขึ้นจากการยกระดับพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดผ่านแดนถาวรในอนาคต สำหรับความคืบหน้าด้านการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูง สถิติการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนรวมถึงเหตุการณ์ปะทะอันสืบเนื่องมาจากการลักลอบตัดไม้ดังกล่าวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงขอให้สองฝ่ายจัดการประชุมคณะกรรมการระดับชาติสองฝ่ายในโอกาสแรกเพื่อหารือแนวทางป้องกันปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบและยั่งยืน เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นการขยายความร่วมมือในรูปแบบใหม่ ขอเสนอให้สองฝ่ายช่วยกันรักษาความสะอาดบริเวณลำคลอง โดยอาจเริ่มต้นจากพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสำคัญ อันจะช่วยเสริมสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงามสำหรับผู้สัญจรข้ามแดนและช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับประเด็นความร่วมมือด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายหารือในรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำถึงความสำคัญของความมั่นคง เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศไปข้างหน้า ไทยและกัมพูชาจะต้องร่วมมือกันรับมือกับความท้าทายและภัยคุกคามความมั่นคง รวมทั้ง สร้างสรรค์ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม

 

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ  ด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน ใน JCR ครั้งที่ 2 ได้กำหนดเป้าหมายการค้าทวิภาคีไว้ที่ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ค.ศ. 2020 ซึ่งเป็นความท้าทาย ในชั้นแรกต้องมุ่งการอำนวยความสะดวกการค้าบริเวณชายแดน โดยเฉพาะการนำเข้าและส่งออกสินค้า และส่งเสริมการนำเข้าสินค้าเกษตรแบบมีสัญญา (contract farming) สำหรับข้อห่วงใยต่อประเด็นสินค้านำผ่านไปยังประเทศที่สาม ในส่วนของพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ทั้งสองประเทศต้องเร่งเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าด้วยการขนส่งสินค้าผ่านแดนโดยเร็ว ระหว่างนี้ ต้องใช้ความตกลงในกรอบพหุภาคี ไม่ว่าจะเป็นกรอบ WTO ASEAN GMS และ ACMECS ให้เกิดประโยชน์สูง

 

ด้านการลงทุน กัมพูชามีศักยภาพในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการยกเว้นภาษีนำเข้าจากหลายประเทศ ไทยมีความเข้มแข็งด้านการแปรรูปและด้านโลจิสติกส์ สามารถเชื่อมโยงสินค้าและไปยังตลาดอื่น ๆ โดยผ่าน Eastern Seaboard หรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมถึงโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและท่าเรือดานังในอนาคต ซึ่งจะเป็นการเติมเต็มห่วงโซ่การผลิตระหว่างเขตเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศกับตลาดโลกอย่างสมบูรณ์ ความตกลงว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อนที่จะลงนามในวันนี้ จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนไทยและสนับสนุนการลงทุนในกัมพูชาต่อไป  ไทยยังมุ่งแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเพื่อให้แรงงานได้รับสิทธิ สวัสดิการและการคุ้มครองตามกฎหมาย และพร้อมสนับสนุนกระบวนการพิสูจน์สัญชาติและการแจกหนังสือเดินทางของแรงงานต่างด้าวในไทยของฝ่ายกัมพูชาต่อไป

 

ด้านความเชื่อมโยง ทั้งสองประเทศหาแนวทางพัฒนาความเชื่อมโยงให้สอดคล้องตามแนวทางในกรอบต่าง ๆ เพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อ (seamless connectivity) และเชื่อมต่อกับเส้นทางสายไหมทางบกทางทะเล one belt, one road ของจีน โดยต้องเร่งรัดเจรจาการจัดทำความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการขนส่งทางถนนระหว่างสองประเทศ เพื่อให้สามารถการเดินรถขนส่งสินค้าและรถโดยสารไม่ประจำทางระหว่างกัน ซึ่งรางรถไฟระหว่างสองประเทศ ได้มีการเชื่อมต่อแล้ว หวังว่าจะสามารถเริ่มการเดินรถไฟได้โดยเร็ว ทางน้ำ เวียดนามพร้อมจะเป็นเจ้าภาพการประชุมความร่วมมือด้านการเดินเรือชายฝั่งไทย – กัมพูชา – เวียดนาม ครั้งที่ 2เพื่อประโยชน์ด้านการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสามประเทศในอนาคต ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ฝ่ายไทยจึงเห็นควรผลักดันให้มีการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันให้มากขึ้นในลักษณะ Thailand + 1 หรือ Cambodia + 1 ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ 2 ราชอาณาจักร 1 จุดหมาย Two Kingdoms, One Destination  ความร่วมมือด้านพลังงาน ฝ่ายไทยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน และพร้อมที่จะร่วมกับกัมพูชาในการทำการร่วมทำการศึกษาและแสวงหาแหล่งพลังงานใหม่ ๆ

 

พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงความคืบหน้าในความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรม ได้แก่   ด้านการศึกษา ไทยให้ความสำคัญกับความร่วมมือเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านการศึกษาทั้งในด้านทุนการศึกษาและทุนฝึกอบรม เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านการศึกษา โดยเฉพาะโครงการพระราชทานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในการก่อสร้างสถาบันเทคโนโลยีแห่งใหม่ที่ จ. กัมปงสปือ จะเปิดทำการสอนได้ในเดือนมกราคม 2561  รวมทั้ง สถาบันเทคโนโลยีกัมปงเฌอเตียล ซึ่งเป็นโครงการพระราชทานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีปัจจุบันได้ยกระดับจากวิทยาลัยเป็นสถาบันเทคโนโลยีแล้ว

 

ความร่วมมือด้านสาธารณสุข  ไทยสนับสนุนทั้งการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทางการแพทย์ และการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข พัฒนาระบบขนส่งผู้ป่วยข้ามแดนระหว่างโรงพยาบาลบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศและการจัดตั้งโรงพยาบาลพี่น้องซึ่งมุ่งเน้นด้านการพัฒนาทักษะบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้กับโรงพยาบาลตามแนวชายแดนของกัมพูชา โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ เช่น โรคมาลาเรีย โรคไข้เลือดออกและโรคอื่น ๆ ที่มียุงเป็นพาหะตาม   พระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีความร่วมมือด้านการพัฒนาระบบสหกรณ์ในกัมพูชา การพัฒนาการผลิตข้าว และความร่วมมือในการส่งเสริมความทนทานต่อความเสี่ยงจากภูมิอากาศในชุมชนการเกษตรของไทยและกัมพูชา

 

การพัฒนาชุมชน การดำเนินโครงการพัฒนาหมู่บ้านตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่ จ. อุดรเมียนเจย และ จ. เกาะกง ซึ่งได้มีการส่งมอบโครงการให้ฝ่ายกัมพูชาดูแลต่อแล้ว ไทยยังพร้อมส่งเสริมการพัฒนาสินค้าหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งผลิตภัณฑ์ (One Village One Product: OVOP) ตามแนวเส้นทางที่เชื่อมโยงกันได้ต่อไป  การพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ยกระดับศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานที่ปูนพนม กรุงพนมเปญ เป็นสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานไทย – กัมพูชา เมื่อเดือนกันยายน 2559  เพิ่มการสอนระดับปริญญาตรี ปัญหาการค้ามนุษย์ ไทยและกัมพูชาอยู่ระหว่างการจัดตั้งศูนย์แรกรับเหยื่อการค้ามนุษย์ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการค้ามนุษย์ให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างยั่งยืนและมีศักดิ์ศรี

 

ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม กัมพูชาได้ให้ไทยเข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในการบูรณปฏิสังขรณ์กลุ่มปราสาทเกาะแกร์ ในจังหวัดพระวิหาร  ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม  ผลักดันให้สองฝ่ายหารือร่วมกันในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสเพื่อพิจารณาแนวทางและความเป็นไปได้ในการส่งเสริมความร่วมมือใความร่วมมือและความสัมพันธ์ในระดับประชาชน เป็นหัวใจของความสัมพันธ์ทวิภาคีของสองประเทศ ภาคประชาสังคมและ Track II มีบทบาทที่แข็งขัน โดยเฉพาะสมาคมมิตรภาพของทั้งสองฝ่าย รัฐบาลไทยย้ำเรื่องบทบาทที่สร้างสรรของภาคเอกชนและธุรกิจของไทยที่อยู่ในกัมพูชาให้ดำเนินกิจกรรมสาธารณประโยชน์แก่ชุมชนท้องถิ่นและประชาชนกัมพูชา ด้วย

matemnews.com  7 กันยายน 2560