นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ เปิดเผยว่า มีการคาดการณ์ว่าบางช่วงของฤดูฝนปีนี้โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม จะมีการกระจายตัวของฝนไม่สม่ำเสมอและมีปริมาณฝนน้อย ซึ่งจะส่งผลให้มีน้ำไม่เพียงพอสำหรับการเกษตรในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะนอกเขตชลประทาน ซึ่งอาจทำให้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งและขาดแคลนน้ำจากปัญหาฝนทิ้งช่วงตนจึงได้กำชับและมอบหมายหน่วยงานในพื้นที่ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด
โดยมอบหมายกรมฝนหลวงฯ ให้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงในบริเวณพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหา พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และการเติมน้ำให้กับเขื่อน/อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 (ขนาดใหญ่ จำนวน 19 แห่ง ขนาดกลางจำนวน 198 แห่ง) เพื่อให้เพียงพอต่อการบริหารจัดการของพื้นที่เกษตรในเขตชลประทาน ล่าสุดทราบว่าเกิดผลดี มีฝนตกคิดเป็นร้อยละ 90.0” นายกฤษฎา กล่าว
นอกจากนี้ ให้กรมชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 199 เครื่อง สำหรับเติมน้ำให้โรงสูบเพิ่มน้ำเข้าคลองซอย สร้างฝาย ออกหน่วยบริการนำเพื่ออุปโภค ตลอดจนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกรให้ปลูกข้าวรอบ 2 (11.21 ล้านไร่) ให้ใกล้เคียงเป้าหมายที่สามารถจัดสรรน้ำได้ 11.65 ล้านไร่ด้วย.