คดีแม่ร้องลูกสาววัย 6 ขวบ ถูกล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียนอนุบาลพื้นที่นครปฐม ล่าสุด “ปวีณา หงสกุล” พาเด็กพร้อมผู้ปกครองเข้าชี้ภาพผู้ต้องหา ทันทีที่เด็กเห็นภาพถึงกับร้องไห้ และชี้ซ้ำๆ ส่วนผู้ต้องหาให้การอ้างเมาเหล้า เกิดอารมณ์ชั่ววูบ
พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นำทีมสอบสวนนายสนอง เข็มทอง อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาข่มขืนอนาจารเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ในโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครปฐม เหตุเกิดวันที่ 7 มิถุนายน เบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพว่า คืนวันที่ 6 มิถุนายน ซึ่งเป็นคืนก่อนเกิดเหตุ ได้เข้าไปอาศัยนอนในโรงพยาบาลตัวเมืองนครปฐม และลักมือถือผู้มาใช้บริการ ก่อนหนีมาที่วัดใกล้โรงเรียนที่เกิดเหตุ เพื่ออาบน้ำ จากนั้นวันเกิดเหตุได้เข้าไปในโรงเรียน และก่อเหตุอนาจารเด็กหญิง โดยอ้างว่าดื่มเหล้าจนเมา ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบ หลังก่อเหตุหนีไปบ้านญาติในพื้นที่ อ.นครชัยศรี กระทั่งถูกติดตามจับกุมตัวได้ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน
สำหรับนายสนอง เคยถูกจับมาแล้วหลายคดี ทั้งลักทรัพย์ ยาเสพติด และคดีอนาจารเด็กหญิง ในพื้นที่ จ.นครปฐม โดยมีหมายจับ แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ซึ่งต้องรอประสานตำรวจ สภ.นครชัยศรี คุมตัวไปสอบสวน ส่วนพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) จะนำตัวส่งศาลฝากขัง
ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นำแม่เด็กและเด็กหญิงวัย 6 ขวบ มาที่ สภ.เมืองนครปฐม เพื่อชี้ตัวนายสนอง เข็มทอง อายุ 49 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิง หลังตามจับกุมตัวได้ในพื้นที่ อ.นครชัยศรี โดยไม่ให้สื่อมวลชนขึ้นไปเก็บภาพขณะชี้ตัว ใช้เวลาเกือบ 20 นาที นางปวีณาได้พาแม่เด็กและเด็กขึ้นรถตู้กลับ พร้อมเล่าว่า สภาพจิตใจเด็กอยู่ในอารมณ์แปรปรวน มีร้องไห้สลับกับอาการปกติ และขณะนำเด็กชี้ตัวผู้ต้องหา แค่เพียงเด็กเห็นภาพผู้ต้องหา เด็กก็มีอาการหวาดผวา ร้องไห้ทันที ทำให้มั่นใจว่า เด็กจำหน้าผู้ต้องหาได้แม่นยำ เพราะนอกจากร้องไห้ หวาดผวา ยังชี้ซ้ำๆ หลายครั้ง ทำให้ทีมสหวิชาชีพต้องดูแลปรับสภาพจิตใจ โดยมีแม่เด็กคอยเฝ้าใกล้ชิด
ส่วนโรงเรียนที่เกิดเหตุ ทราบว่าได้แจ้งหน้าเสาธงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้เข้ามาทำร้ายเด็กในสถานศึกษาตามที่เป็นข่าว ซึ่งเรื่องนี้ผู้เสียหายอยากให้โรงเรียนแสดงความรับผิดชอบ และชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะผู้ต้องหาสารภาพแล้วว่าก่อเหตุจริง รวมถึงให้กระทรวงศึกษาธิการเข้ามาตรวจสอบ และวางมาตรการดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น ทั้งยังฝากถึงครูประจำชั้น หากมีเด็กนักเรียนมาฟ้องหรือมาแจ้งครูว่ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น ขอให้ครูรับฟังเด็ก และรีบแจ้งตำรวจตรวจสอบ
