ถือเป็นคราวเคราะห์ของทวีปอเมริกาเหนือก็ว่าได้ หลังอเมริกาและเม็กซิโกเจอภัยพิบัติทางธรรมชาติเล่นงานเสียจนปางตาย โดยอเมริกาปะทะกับเฮอร์ริเคนเออร์มาที่คร่าชีวิตคนไปกว่า 19 ราย ด้านเม็กซิโกเจอแผ่นดินไหวหนักพรากชาวจังโก้ไป 61 ศพ แถมเฮอร์ริเคนลูกใหม่เตรียมเข้าซัดชายฝั่งอีกด้วย
พายุเฮอร์ริเคนระดับ 5 ‘เออร์มา’ ความเร็วลม 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กับชาติหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน สิ่งปลูกสร้างพังราพณาสูร มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย พัดเข้าถล่มประเทศคิวบาแล้ว และกำลังมุ่งหน้าไปรัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ทางการสหรัฐประกาศอพยพประชาชนกว่า 5.6 ล้านคน และขอให้อีก 20.6 ล้านคนอยู่ในสภาวะพร้อมอพยพทันที โดยพายุครั้งนี้ร้ายแรงมากกว่าเฮอร์ริเคนแอนดรูว์ เมื่อปี 2535 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 65 รายเสียอีก
ด้านเม็กซิโก หลังเกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงแม็กนิจูด 8.1 นอกชายฝั่ง สั่นสะเทือนแรงที่สุดในรอบกว่า 230 ปี ของเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 61 รายแล้ว เนื่องจากมีอาคารพังทลายจำนวนมาก โดยเฉพาะในรัฐโออาซากา นอกจากนี้ “เคเทีย” พายุเฮอร์ริเคนระดับ 1 ความเร็วลม 70 ก.ม.ต่อชม. เพิ่งขึ้นฝั่งทางตะวันออกของเม็กซิโก ก่อให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่กู้ภัย และก่อให้เกิดความเสี่ยงดินถล่ม รวมไปถึงน้ำท่วมฉับพลันด้วย
ขอบคุณภาพและข่าวจาก ข่าวสด