Home ข่าวทั่วไปรอบวัน หนุ่มบีเอ็ม ยอมรับพุ่งชนคู่กรณีหน้าด่าน เพราะกลัว ยินดีไกล่เกลี่ย

หนุ่มบีเอ็ม ยอมรับพุ่งชนคู่กรณีหน้าด่าน เพราะกลัว ยินดีไกล่เกลี่ย

538
0
SHARE

จากกรณี ร.ต.ท.จิตต์เกษม จันทร์รัก ผบ.หมวดกองร้อยที่ 2 กองกำกับการอารักขา1 กองกำกับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) ถูกรถเก่ง BMW พุ่งชนบาดเจ็บสาหัสบริเวณหน้าด่นเก็บเงินธัญบุรี ผู้เสียหาย ระบุ ถูกขับเบียดจนเฉี่ยวชนกัน พยายามขับรถตามสกัดลงไปขวางหน้ารถเพื่อให้เจ้าของรถหรูลงมาเคลียร์ แต่ไม่จอด กลับพุ่งชนกระเด็นขึ้นไปบนฝากระโปรงหน้ารถ แล้วสะบัดร่างตกกระแทกพื้นถนน แล้วขับหนีไป

ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 19 ก.ค.62 ว่า ล่าสุดวานนี้ นายเอกราช ชูใหม่ อายุ 38 ปี เจ้าของรถ BMW สีขาวที่ปรากฎในคลิป ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา โดยขับรถคันเกิดเหตุมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เนื่องจากได้รับความเสียหายจากการถูกคู่กรณีชน ได้รับความความเสียกันชนท้ายฝังขวาเป็นรอยกระจกหน้ารถตกร้าว เนื่องจากพุ่งชนคู่กรณี

เจ้าของรถ BMW เผยว่าวันเกิดเหตุกลับจากทำธุระที่ จ.พระนครศรีอยุธยาโดยขับรถขึ้นถนนกาญจนภิเษกหมายเลข 9 ขับด้วยความเร็ว 110-120 กม./ชม. โดยวิ่งเลนขวา กระทั่งเจอรถคู่กรณีอยู่ด้านหน้าขับแช่เลนขวา ตนจึงเบี่ยงซ้ายเพื่อแซงแล้วก็เบี่ยงเข้าเลนขวาไม่มีการปาดหน้าบีบแตรใส่หรือเปิดไฟสูงไล่

ซึ่งรถคู่กรณี เร่งเครื่องขับมาปาดหน้ารถตนแล้วเบรค อาจไม่พอใจที่ตนขับแซง นอกจากนี้ยังขับส่ายไปมาไม่ให้ตนเองแซง รถของตนแรงกว่าจึงหาช่องแซงเพราะไม่อยากมีเรื่องคู่กรณีก็ยังเร่งเครื่องขับมาชนท้ายรถของตน ซึ่งตนก็ขับหนีเพราะมองกระจกหลังเห็นคู่กรณีเปิดกระจกรถถืออะไรบางอย่างอยู่ในมือมองไม่ชัด กลัวเป็นอาวุธปืน

กระทั่งขับมาถึงหน้าด่านเก็บเงินธัญบุรีตนขับเข้าช่องเก็บเงินอีซี่พาสส่วนคู่กรณีขับไล่ตามมาชนกรวยยางล้มพุ่งชนแบริเออร์ โดยจอดที่ช่องเก็บเงินอีกช่องหนึ่งแล้วลงจากรถวิ่งมาขวางหน้ารถของตนไม่ทันได้เบรกและมองไม่เห็นจึงชนเข้าอย่างแรง ไม่ได้ตั้งใจชน

จากนั้นก็พยายามขับสะบัดตัวคู่กรณีตกจากกระโปร่งหน้ารถเพราะไม่รู้ว่าคู่กรณีอาวุธอะไรหรือไม่ ถ้าเป็นปืนนำมายิงตนจะท่าอย่างไรและด้วยความตกใจจึงขับหนีก่อนโทรเคลียร์กับประกัน ประสานตำรวจเพื่อเข้าให้ปากคำ ตอนนี้เคลมประกันและต้องเสียค่าซ่อม 2แสนกว่าบาท

นอกจากนี้ได้แจ้งความกลับคู่กรณีในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ยินดีเจรจาไกลเกลี่ยรับผิดชอบ หากฝ่ายคู่กรณีพูดความจริงตรงตามสิ่งที่ตนพูดวอนใครมีกล้องหน้ารถช่วยส่งให้ด้วยจะใช้เป็นหลักฐานว่าก่อนเกิดเหตุเกิดอะไรขึ้นบ้าง หากพบว่าในมือคู่กรณีถืออาวุธก็จะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ร.ต.ทจิตต์เกษม ผู้บาดเจ็บระบุว่าตนเปิดกระจกแล้วกวักมือเรียกให้จอดรถ ในมือไม่มีอาวุธใดๆ มาข่มขู่คู่กรณี ตอนลงจากรถลงไปขวางรถดูกรณีบริเวณหน้าด่านเก็บเงินก็ไม่ได้นำอาวุธอะไรติดตัวไปด้วย ในมือมีเพียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว ซึ่งตนก็พยายามยกมือโบกให้รถ BMWจอด ในกล้องวงจรปิดก็เห็นชัดว่าตนไม่ได้ถืออาวุธใด ๆ

ขณะที่แฟนสาว กล่าวว่าไม่อยากขอความเป็นธรรมแล้วเรียกร้องไปก็เท่านั้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมายรายละเอียดให้การไปหมดแล้วตอนนี้ตนได้ย้ายแฟนหนุ่มไปรักษาที่รพ.ตรวจ โดยวันนี้ (19 ก.ค.)แพทย์จะทำการผ่าตัดที่หัวไหล่ซ้าย ยังไม่รู้จะออกรพ.เมื่อไหร่

ด้านคดีพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำคนขับรถ BMW แต่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหากับฝ่ายไหนรอสอบปากคำอย่างละเอียดพร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบรถยนต์คันเกิดเหตุ