นักข่าวยังคงติดตามอย่างเกาะติด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะผลักดันกัญชาได้ถึงไหน ทันทีที่ลงรถในทำเนียบรัฐบาล 8.40 น.วันอังคาร 30 ก.ค.2562 นักข่าวเริ่มสัมภาษณ์ด้วยประเด็น ท่านรองนายกฯและรมว.สาธารณสุขมีความเห็นอย่างไรที่ กระทรวงยุติธรรมไทย เตือนไทยยังอยู่ในอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ. 1961 และอนุสัญญาว่าด้วยวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ. 1971 ที่ยินยอมให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ หรือในทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น นายอนุทินตอบว่า
“ตอนนี้เราก็ต้องเริ่มจากการรักษาก่อน ในทางการแพทย์ทำได้อยู่แล้ว แต่เรายังไม่พูดถึงเรื่องทางการค้า ตอนที่หาเสียงพรรคภูมิใจไทยไม่เคยพูดถึงเรื่องสันทนาการ แต่เรื่องนี้เป็นผลพลอยได้ คงไม่มีพรรคไหนจะไปบอกว่าขอทำกัญชาให้เสรี สูบกันสนุกสนานเต็มที่ ไม่ใช่ เราเห็นคุณค่าของกัญชา กัญชง สารสกัดจากกัญชา คือ และสารออกฤทธิ์จากกัญชา ใช้ในการรักษาโรค ผลิตยา ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ เราจึงผลักดันเรื่องนี้ และหากทำได้อย่างดีก็จะมีประโยชน์ในการสร้างเศรษฐกิจต่อบ้านเมือง ขณะที่พืชกัญชงเราก็สามารถไปทำเป็นวัตถุดิบของอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องส่วนผสมอาหาร เครื่องสำอางต่างๆ และสามารถขยายผลไปเป็นผลิตภัณฑ์ทางการค้าต่างๆ นี่คือขั้นตอนต่อไปที่เราจะทำ แต่ต้องเริ่มจากทางการแพทย์ก่อน เพื่อให้เห็นว่ามันไม่มีโทษอะไรมากมาย ภายใต้ปริมาณที่จำกัด ต้องเริ่มตัวอย่างให้คนเห็น และสามารถใช้ประโยชน์จากตรงนั้นได้อย่างไร”
นักข่าวถามว่า จะให้ประชาชนปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้น จะควบคุมได้อย่างไร นายอนุทิน ตอบ
“ทำไมเราถึงคุมเหล้า เบียร์ บุหรี่ได้ ทำไมเราถึงรู้ว่าต้องกินยาพาราครั้งละ 1 เม็ด ทำไมไม่กินทีเดียว 20 เม็ด ใช่หรือไม่ มันต้องอยู่ที่การให้ความเข้าใจของผู้ปกครอง ต้องช่วยกันดูแลลูกหลาน ในส่วนของกัญชานั้นพบว่ามีการออกฤทธิ์ที่ดีที่สุดกับผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป และจะต้องมีกฎหมายด้วยว่าใครอายุต่ำกว่า 21 ปี ไม่สามารถใช้ได้ การควบคุมดูแลก็เหมือนกับการที่ห้ามเด็กไม่ให้สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าเบียร์ การจะครอบครองต้องมีการแจ้งอย่างเป็นทางการ ยังไม่สามารถซื้อขายกันได้อย่างเสรี ผมเพิ่งเข้ามาทำงานจะให้เสร็จทุกอย่างเลยคงเป็นไปไม่ได้ ต้องปลดล็อกทีละล็อก กฎหมายห้ามไว้เยอะแยะ ต้องประสานไปที่หน่วยงานอื่นๆ โดยเฉพาะสำนักงาน ป.ป.ส.”
matemnews.com
30 กรกฎาคม 2562