สภาพอากาศที่ร้อนตลอดทั้งวันประกอบกับ กระแสลมที่มีความแรงกลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการดับไฟป่าที่กำลังลุกลามอยู่ในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งในพื้นที่อย่างน้อย3 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช แม้ว่าตลอดทั้งวันจะมีการระดมเจ้าหน้าที่กว่า100นายเข้าควบคุมพื้นที่ก็ตาม
สภาพความเสียหายจากไฟไหม้ป่าพรุและลุกลามเข้าไปวนสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้านได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ตำบลการะเกด และตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่น่าเป็นห่วง โดยตลอดทั้งวันในพื้นที่ตกอยู่ท่ามกลางหมอกควันไฟป่า
ขณะที่สถานีควบคุมไฟป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราชระดมกำลังจนท.จากทุกภาคส่วนเข้าสกัดการลุกลามโดยการเร่งทำแนวไฟป่าครอบคลุมพื้นที่4อำเภอตั้งแต่ อ.หัวไทร , เชียรใหญ่ , ร่อนพิบูลย์ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ นอกจากนี้ยังได้ประสานงานกับกองทัพภาคที่ 4 สนับสนุนรถดับเพลิงให้เข้ามารับมือสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในครั้งนี้ด้วย
สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งเกิดขึ้นเป็นครั้งที่2 ซึ่งดูเหมือนว่ารอบนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วง ส่วนหนึ่งเนื่องจาก ระดับน้ำในพรุควนเคร็งที่ต่ำกว่าระดับพื้นที่ดินรอบพรุ ซึ่งบางจุดต่ำกว่า 150 เซนติเมตร ซึ่งนั่นหมายความว่าการควบคุมเพลิงที่อยู่ใต้ชั้นดินของป่าพรุนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก
สำหรับพื้นที่ป่าครุควนเคร็งมีพื้นที่ป่าพรุทั้งหมดมีประมาณ 223,320 ไร่ โดยสาเหตุของไฟไหม้ป่าพรุนั้นมีทั้งเกิดจากธรรมชาติและฝีมือของมนุษย์