เฟชบุ้ค Wassana Nanuam
“ชั่วร้าย ใจดำ”!!
“บิ๊กตู่” ซัด มือระเบิด”ชั่วร้าย ใจดำ” ทำประเทศวุ่นวาย ก่อเหตุช่วงประชุมรมว.ต่างประเทศ อาเซี่ยน โต้ รัฐบาลไม่ทำเอง เพื่อดิสเครดิตตัวเอง แขวะ คิดให้มันมีตรรกกะหน่อย
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนสถานการณ์ระเบิดป่วนกรุง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบ ซึ่งทราบว่ามีการเกี่ยวพันกับหลายคน
ส่วนสาเหตุในการวางระเบิดนั้น ยังไม่ทิ้งสาเหตุใดต้องมีการตรวจสอบหลายเหตุการณ์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะในเรื่องภาคใต้คงต้องมีการหารือและสอบสวนกันต่อไป ขอให้ใจเย็นๆ วันนี้ได้ทราบถึงตัวผู้เกี่ยวข้อง เป็น10คนที่ต้องติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป พร้อมทั้งขออย่ากดดันเจ้าหน้าที่ในการทำงาน
“เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ในโลกที่ก็มีให้เห็นอยู่ คนเราแตกต่างกันด้านความคิด ผมไม่ได้มุ่งหมายว่าเหตุที่เกิดขึ้นมาจากกลุ่มใด แต่การให้ข่าวช่วงแรกเป็นการเปรียบเทียบเรื่องดังกล่าวทั้งนี้ยังไม่ตัดประเด็นแรงจูงใจเรื่องใดออกไป เมื่อดูเหตุการณ์ตั้งแต่อดีตจะมีความยึดโยงกัน”พลเอกประยุทธ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่แม่ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับตัวแสดงความเป็นห่วงลูกชายนั้น พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า แม่ทุกคนห่วงลูกเป็นธรรมดา แต่ก็ต้องตรวจสอบไปตามวัตถุพยานและกล้องซีซีทีวี ซึ่งต้องฟังความทั้ง2 ฝั่ง ส่วนผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด ได้ให้กระทรวงสาธารณสุขและตำรวจเข้าไปดูแลแล้ว
พลเอกประยุทธ์ กล่าวประณามคนที่ก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้ว่าเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย เพราะถ้าเกิดที่ใดก็ตามก็มีปัญหาหมด โดยเฉพาะเกิดขึ้นในระหว่างที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
“คนที่ทำถือว่าใจร้ายใจดำ เป็นคนที่ใช้ไม่ได้ คนพวกนี้ต้องถูกลงโทษ ที่ทำให้ประเทศวุ่นวาย เพราะขณะนี้ประเทศกำลังเดินหน้า โดยรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย”
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการบูรณาการการทำงานด้านการข่าว การพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งการชี้แจงข้อมูลร่วมกัน ซึ่งตนฟังทุกคน และชื่นชม ที่ กล้องซีซีทีวีทุกตัว ที่ใช้งานได้ จนทำให้สามารถตรวจสอบหาความเชื่อมโยงได้ไปถึงหลายกลุ่ม และส่วนตัวได้ให้กรอบการทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่าใดนั้นคงไม่กำหนดระยะเวลาทำงาน
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมีน้อย มีประมาณ 3 แสนคนส่วนประชาชนมี70ล้านคน ก็ต้องใช้ความร่วมมือจากประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแส ถ่ายรูป และเมื่อรูปนั้นตรงกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการก็จะได้รวดเร็วและเป็นการแบ่งเบาภาระให้ตำรวจด้วย เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องของทุกคน โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวและพื้นที่ธุรกิจรวมถึงพื้นที่ในการประชุมที่สำคัญที่ต้องช่วยกันดูแล
ส่วนที่คนมองว่าการก่อเหตุระเบิดเป็นฝีมือของรัฐบาลเพื่อต้องการกลบกระแสบ้างอย่างนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของรัฐบาล เพราะขณะเกิดเหตุมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ที่เป็นประเทศมหาอำนาจ ใครจะทำแบบนั้นเว้นแต่เขาทำเพื่อไม่ให้เกิดความน่าเชื่อถือในเวทีต่างประเทศ ขอให้มองมุมนี้บ้าง
“อย่ามองแต่ว่ารัฐบาลจะสร้างสถานการณ์ ที่สำคัญไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร หากผมอยู่เฉยๆไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ดีกว่าหรือ คิดให้มันมีตรรกกะหน่อย”นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ระเบิดป่วนกรุงที่เกิดขึ้นเป็นการท้าทายหรือสร้างความไม่พอใจหลังนายกรัฐมนตรีเข้ามาคุมทหารและตำรวจหรือไม่ ว่า ไม่เกี่ยวข้องกันกับความไม่พอใจ เพราะตนได้ให้นโยบายตำรวจ เพื่อให้การให้เกิดความชัดเจนในการสืบสวนและสอบสวนต่อไป
พร้อมทั้งฝากเตือนเรื่องการแสดงความคิดเห็นให้ใช้ความระมัดระวังที่จะไม่ให้เกิดความขัดแย้ง หรือการให้ข้อมูลข่าวสารใดๆที่ทำให้เข้าใจผิดหรือไม่ชอบพอใจกันเป็นการส่วนตัว
นายกรัฐมนตรี ยังปฎิเสธคำพูดที่ระบุว่า นโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ที่ เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่ นั้นว่า ผมไม่ได้พูด และมองว่าใครจะเลือกใครก็เป็นเรื่องการเมืองไป เพราะที่ผ่านมา ผมยังเป็นนายกฯ อยู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง
สำหรับการแก้ปัญหาภาคใต้ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นกับการพูดคุยสันติสุขหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่าการพูดคุยต้องใช้ความระมัดระวังอย่างที่สุด
พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดต้องไปหารือนอกประเทศ จึงจำเป็นต้องให้เพื่อนบ้านเป็นตัวช่วย และต้องให้เขาหารือกันก่อน เมื่อผลหารือเป็นอย่างไร จึงส่งกลับมาที่รัฐบาล เพื่อพิจารณาให้
แต่ยืนยันว่ารัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวแบ่งแยกไม่ได้ พร้อมทั้งมองว่าสิ่งใดรับได้ก็จะทำ ซึ่งการแก้ไขปัญหาภาคใต้ที่ผ่านมาได้ทำมาหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องกฎหมาย การพัฒนาและการพาคนกลับบ้าน ซึ่งเรื่องทั้งหมดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
……………………………………………
Wassana Nanuam
รัฐบาล ทำเองปะ?! ระเบิดป่วนกรุงฯเพื่อกลบกระแสข่าว
“นายกฯบิ๊กตู่” ไม่ปรี๊ด! แต่ตอบแบบนิ่มๆ ใจเย็นๆ ถาม ทำแล้วกระทบความน่าเชื่อถือรัฐบาล แล้วจะทำไปทำไม ผมอยู่ดีๆ เฉยๆ ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ดีกว่าหรือ. เหน็บ!!อยากให้คิด ให้มีตรรกะ หน่อย”
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าฝ่ายรัฐบาลมีพิรุธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า รัฐบาลมีพิรุธอย่างไร อยากให้มองในประเด็นใหญ่ว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังทำอะไรอยู่ เรากำลังประชุมระดับนานาชาติ มีต่างประเทศเข้าร่วม ทั้งในกรอบอาเซียนและประเทศคู่เจรจา
“ถามว่าใครจะทำแบบนั้น เว้นแต่ว่าเป็นการทำเพื่อไม่ให้เกิดความน่าเชื่อถือ ในเวทีต่างประเทศ อยากให้มองในมุมนี้บ้าง
อย่ามองในประเด็นที่ว่ารัฐบาลจะสร้างสถานการณ์เอง จะทำทำไม ผมอยู่ดีๆ เฉยๆ ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ดีกว่าหรืออย่างไร อยากให้คิดให้มีตรรกะหน่อย”
……………………….
matemnews.com
5 สิงหาคม 2562