Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์- ปารีณา- หอย

พลเอกประยุทธ์- ปารีณา- หอย

430
0
SHARE

 

 

เฟชบุ้ค ปารีณา ไกรคุปต์

https://bit.ly/2YvyjGm

เรื่องถวายสัตย์ไม่ครบ

พลเอกประยุทธฯ แจ้งว่าจะรับผิดชอบเอง หมายถึง ท่านจะแก้ปัญหานี้ และจะแก้ได้อย่างเรียบร้อย ไม่ใช่ จะลาออก ช่วยใช้สมองและสติปัญญาเท่าที่พอมี มาทำงานอย่างสร้างสรรค์ดีกว่า วันนี้ต้องเดินหน้าประเทศไทย และถ้ายังทำงานกันอย่างงี้ ประเทศจะเดินต่อลำบาก ประชาชนกำลังรอ พอเถอะ… ช่วยกันทำงานเถอะ…สิ่งที่พวกหอย (แถวบ้านหอยแปลว่า มด แมลงสาป กิ้งกือ ไส้เดือน)กำลังทำอยู่ คือสงครามจิตวิทยาต่อพลเอกประยุทธฯ ขอฝากท่าน โนแคร์กับหอย เพราะหอยพยายามจะทำร้ายจิตใจ และขอชวนคนไทยเดินหน้าประเทศไทยส่งกำลังใจให้คนทำงานแต่โดนหอยขวาง

#หอยดีแต่หอน

#คนทำงานต้องไม่สนใจหอย

#อย่าท้อเพราะหอย

#เดินหน้าเลยคะท่าน

#ประชาชนรออยู่

 

เฟชบุ้ค  Wassana Nanuam

“พี่ใหญ่” รู้ใจ รู้ทาง “น้องตู่” ไม่มีลาออก หรอก!!

“บิ๊กป้อม” ตอบแทนได้เลยว่า “นายกฯ” ไอ้เรื่อง ลาออก ลาเอิก ไม่ลาออก หรอก” แต่ไม่รู้ จะรับผิดชอบคนเดียว ยังไง เป็นเรื่องของท่าน ไม่รู้เลย นายกฯจะทำไง

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงการที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม บอกว่า จะรับผิดชอบ แต่เพียงผู้เดียว กรณีการถวายสัตย์ ฯไม่ครบถ้วน นั้นว่า นายกฯพูดไปแล้วว่า จะรับฺผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว เป็นเรื่องของท่าน เป็นเริ่องส่วนตัวของท่าน ผมจะไปรู้หรือว่า ท่านจะรับผิดชอบยังไง ผมจะไปรู้ได้ไง

“โอ้ย!! ไอ้เรื่อง ลาออก ลาเอิก ไม่ลาออก หรอก” พลเอกประวิตร กล่าวพร้อม กลั้วเสียงในลำคอ

เมื่อถามว่า คิดว่าจะแก้ปัญหาได้ใช้หรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า เชื่อว่า ก็ไม่น่าจะมีอะไรนะ

แต่ทั้งนี้ นายกฯ ก็ไม่ได้มาปรึกษา อะไรเรื่องนี้ กับตนเอง

 

 

ตลอดวันที่ 9 ส.ค.2562 มีผู้ให้สัมภาษณ์นักข่าวเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์ ถวายสัตย์ไม่ครบมากมายหลายคน

 

นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า “หลังเกิดกระแสลือลั่นไปทั่วเรื่อง นายกฯจะลาออก แม้ผมจะไม่เชื่อว่าจะเป็นความจริง แต่หากเป็นความจริง คงจะเป็นผลดีกับตัวนายกรัฐมนตรี เอง หลังเกิดกระแสกดดันหนักมาก จากเรื่องการถวายสัตย์ไม่ครบ ไม่ว่า นายกฯจะอ้างเหตุผลใดๆก็ตาม ก็ไม่สามารถอ้างได้ ด้วยผิดรัฐธรรมนูญชัดเจน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายหลายท่านก็ได้ออกมาให้ความเห็นแล้ว แต่อย่างว่าล่ะครับ การเมืองไทย อะไรก็เกิดขึ้นได้ นักกฎหมายบางคนของประเทศเรา ก็ยังสามารถพูดให้ถูกเป็นผิด  ผิดเป็นถูกได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงหลักการที่แท้จริง มิเช่นนั้นเราคงไม่มีรัฐบาลที่ถูกตั้งคำถามจากสังคม และมีข้อครหามากเท่านี้ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำงาน”

 

นายประมวล  เอมเปีย  อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า  “กรณีนี้จะด้วยเจตนา หรือไม่เจตนา ไม่มีใครสามารถรู้ได้ นอกจากตัวพล.อ.ประยุทธ์เอง ทำให้ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ฝ่ายค้านโดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่   ได้ยกประเด็นนี้อภิปรายและถามหาความรับผิดชอบว่า  นายกฯจะรับผิดชอบอย่างไร ในเมื่อคนเป็นนายกฯกลับทำผิดรัฐธรรมนูญเสียเอง จนเกิดคำถามในสังคมไทยตามมาว่า หากเป็นเช่นนี้แล้ว การเป็นนายกฯและคณะรัฐมนตรี ชุดนี้ จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะแม้นายกฯจะกล่าวคำขอโทษ ครม.และบอกว่า จะรับผิดชอบแต่ผู้เดียว ก็ไม่ทราบว่า จะรับผิดชอบอย่างไร จนภาคประชาชนต้องยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความชี้ขาดว่า ครม.ชุดนี้โมฆะหรือไม่ สุดท้ายจึงอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย  หรือจะอยู่ที่ความกล้าหาญของพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะแอ่นอกแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกจากตำแหน่งนายกฯอย่างผู้นำของอารยะประเทศ ก่อนที่ศาลจะตัดสินเพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองใหม่ โดยยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วยคุณธรรม จริยธรรมให้สมกับที่ท่านเคยเรียกร้องต่อสังคมว่า  เป็นยุคปฏิรูปการเมืองที่ต้องยึดหลักกฎหมาย นิติรัฐ นิติธรรม ที่สำคัญนายกฯยังไม่เอ่ยปากขอโทษประชาชนเลยสักคำ จากผลการกระทำที่ทำให้มีผลกระทบตามมาต่อการลงทุนด้านธุรกิจ การค้า อาทิ ตลาดหุ้นที่ตกรูดเพราะสังคมอยากเห็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ทางการเมืองที่ถูกต้อง สุจริต โปร่งใส และรับผิดชอบ”

 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า  “การถวายสัตย์ปฏิญาณ ไม่เพียงนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้กล่าวนำเท่านั้น รัฐมนตรีทุกคนจะต้องกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตามนายกรัฐมนตรีด้วย คณะรัฐมนตรีจึงต้องร่วมกันรับผิดชอบในการทำผิดรัฐธรรมนูญร่วมกัน  เมื่อคณะรัฐมนตรีรู้ว่าได้กระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญแล้ว แต่กลับไม่แสดงออกถึงความรับผิดชอบประการใดประการหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่น่าละอายเป็นอย่างยิ่ง  กรณีพันท้ายนรสิงห์ แม้ว่าจะเป็นคนโปรดของพระมหากษัตริย์ แต่เมื่อได้ทำความผิด และแม้เป็นเพียงไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่เพื่อไม่ให้เสียพระเกียรติ พระมหากษัตริย์และกฎจารีตประเพณี จึงยอมรับโทษประหาร ยิ่งกรณีนี้เป็นการจงใจกระทำผิด นายกรัฐมนตรีจึงควรต้องแสดงความรับผิดชอบในทางการเมืองจนถึงที่สุดด้วย”

 

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้า และประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า “เรื่องนี้แสดงชัดเจนว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161  เป็นหน้าที่ขององค์กรที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณาว่าการกระทำมีผลสมบูรณ์ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแล้วหรือไม่ เพราะตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่า การเข้ารับตำแหน่งจะสมบูรณ์ ต่อเมื่อมีการถวายสัตย์ปฏิญาณตน แต่ปัญหาตอนนี้คือยังไม่รู้ว่าองค์กรไหนจะออกมาชี้ขาด โดยอาจจะเป็นรัฐสภา ศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องผ่านช่องทางผู้ตรวจการแผ่นดิน  เมื่อมีความผิดสำเร็จเกิดขึ้นแล้ว ความรับผิดชอบที่จะต้องพิจารณามีกันอยู่ 2 ทาง คือ 1.ความรับผิดชอบทางการเมือง ก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคนๆนั้น ว่าคุณจะทำอย่างไร จะลาออกหรือไม่ หรือจะรับผิดชอบอย่างไร  2.ความรับผิดชอบทางกฎหมาย เมื่อการปฏิญาณตนไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่แค่ตัวนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว แต่รวมไปถึงคณะรัฐมนตรีที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน”

 

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  “ดิฉันชอเสนอว่า การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่ดีที่สุด จะส่งผลให้รัฐมนตรีอีก 35 คนพ้นจากตำแหน่งไปด้วย การปฏิบัติหน้าที่ก็สิ้นสุดลงกลายเป็น รัฐบาลรักษาการ จากนั้นเริ่มต้นการเลือกนายกฯกันใหม่ การเลือกหนทางนี้จะช่วยให้ ข้อกังขาจากหลายฝ่ายที่อาจ กลายเป็นวิกฤตการณ์คลี่คลายลงไปได้ หากยังดื้อดึงโดยดำรงตำแหน่งต่อไปแล้วใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป สั่งการต่างๆ โยกย้ายข้าราชการ ใช้จ่ายเงินงบประมาณฯ โดยไม่มีอำนาจก็จะยิ่งสร้างปัญหา และอาจบานปลายไปไกลเกินกว่าจะแก้ไขเยียวยาได้ หากมีความเสียหายใดๆเกิดขึ้นในการ บริหารราชการแผ่นดิน พลเอกประยุทธ์ และ​ ครม.​ ทั้งคณะ ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ทั้งทางกฎหมายและทางการเมือง  รู้สึกเห็นใจพลเอกประยุทธ์ที่อยากทำตัวให้เป็นที่ยอมรับของสังคม แต่กลับมีเรื่องราวที่ทำให้สังคมกังขา นับตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2562 ที่พลเอกประยุทธ์นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ และรัฐมนตรีกล่าวถ้อยคำตามพลเอกประยุทธ์ ด้วยถ้อยคำที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ อันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ กระทบต่อพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ ทำให้คณะรัฐมนตรี ไม่สามารถ เข้าทำหน้าที่ ได้ แต่ก็ยังแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 25-26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา  ในช่วงนั้นมีการทักท้วงแล้ว แต่พลเอกประยุทธ์ก็ยังไม่กลับตัวเพื่อที่จะมาตั้งหลักให้ยืนอยู่ในจุดที่ถูกต้อง แสดงให้เห็นว่า พลเอกประยุทธ์ ยังยืนยันว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณ กระทำโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาถึงวันนี้ เสียงอ่อนลง แต่จะไม่เกิดผลดีต่อรัฐบาลหากการแสดงความรับผิดชอบนั้นกระทำแค่เพียงพูดขึ้นมาลอยๆว่า จะขอรับผิดชอบเพียงผู้เดียว”

 

 

matemnews.com

9 สิงหาคม 2562