วันที่ 11 ส.ค.62 มีรายงานว่า คณะกรรมการธุรกรรมในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งที่ ย.100/2562 อายัดทรัพย์สินนายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ กับพวก ในคดีความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน
ภายหลังจากได้รับรายงานจากกรมสวบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตามหนังสือที่ 0800/2250 ลงวันที่ 2 ก.ค.2558 กล่าวคือ นายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ หรือ ผู้ใช้นามแฝงว่า อาจารย์ธีรพัฒน์ หรืออาจารย์เมธี หรือ อาจารย์สายัณห์ หรือ อาจารย์ปรัชญา หรืออาจารย์เฉลิมผล ประกาศรับทำวุฒิการศึกษาในระดับชั้นการศึกษาต่างๆผ่านเว็บไซต์ โดยอ้างว่าสามารถนําไปใช้สมัครงานหรือใช้สมัครเรียนต่อได้ และอ้างว่าวุฒิการศึกษาดังกล่าว เป็นวุฒิการศึกษาจริง ออกโดยสถาบันการศึกษาที่มีอยู่จริงและจะมีชื่อของผู้ที่ต้องการทําวุฒิการศึกษา อยู่ในระบบของสถาบันการศึกษานั้น ๆ สามารถตรวจสอบกับทางสถาบันการศึกษาได้ โดยเรียกรับเงินค่าดําเนินการเป็นการตอบแทน และมีผู้หลงเชื่อว่าสามารถซื้อวุฒิการศึกษาได้จริง จึงโอนเงินให้ แก่นายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ กับพวก ผ่านบัญชีธนาคารของบุคคลอื่น แต่หลังจากได้รับโอนเงินจากผู้หลงเชื่อ นายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ ไม่ได้ดําเนินการจัดทําวุฒิการศึกษาให้แต่อย่างใด เนื่องจากไม่สามารถทําวุฒิการศึกษา ดังกล่าวได้จริง
กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทําการสืบสวน จนสามารถจับกุมนายพิพัฒน์ และสรุป สํานวนคดีมีความเห็นควรสั่งฟ้อง ในฐานความผิดเป็นผู้นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเผยแพร่ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และเป็นผู้หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความ อันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน
การหลอกลวงดังกล่าวนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง และเป็นการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทํา ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) และ (5) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มาตรา 343 มาตรา 80 และมาตรา 91 ต่อมาพนักงานอัยการได้พิจารณาสํานวนคดี มีคําสั่งฟ้องนายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ ในฐานความผิดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา และ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อันเข้าลักษณะเป็นความผิดตามมูลฐานพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินนายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ กับพวก 3รายการ
1.เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนสรงประภา ดอนเมือง ในชื่อ น.ส.สุพรรณี สุวรรณมาโจ ยอด 20,898.02 บาท
2.เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนเชิดวุฒากาศ (ดอนเมือง) ในชื่อ น.ส.สุพรรณี สุวรรณมาโจ ยอด 5,459.79 บาท
3.เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย สาขาถนนสรงประภา ในชื่อ น.ส.สุพรรณี สุวรรณมาโจ ยอด 251,733.75 บาท
ที่มา สำนักข่าวอิศรา