Home ข่าวทั่วไปรอบวัน 3.16 แสนล้านบาทเงื่อนไขหยุมหยิม

3.16 แสนล้านบาทเงื่อนไขหยุมหยิม

358
0
SHARE

 

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง แถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีวงเงินรวม 3.16 แสนล้านบาท ทั้งการช่วยเหลือเกษตร ดูแลค่าครองชีพ และการท่องเที่ยว เบื้องต้นทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ประเมินว่า ด้วยมาตรการนี้หากทำได้เสร็จตามเป้าหมายจะมีผลต่อจีดีพีประมาณ 0.5-0.6%

 

จากนี้กระทรวงการคลังจะประสานกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่นๆ  ประชาสัมพันธ์มาตรการให้ประชาชนรับรู้ต่อไป

 

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า มาตรการที่กระทรวงการคลังเสนอมามีทั้งหมด 3 ด้าน เริ่มจากมาตรการบรรเทาค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทุกคนที่ถือบัตรฯ จำนวน 14.5 ล้านคน จะได้รับการเติมเงินพิเศษเพิ่มคนละ 500 บาท รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่ถือบัตรฯ จะได้รับเดือนละ 500 บาท เช่นกันเป็นเวลา 2 เดือน ระหว่างส.ค.-ก.ย.นี้  และผู้ถือบัตรฯ ที่มีบุตรตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี จะได้เดือนละ 300 บาท เป็นเวลา 2 เดือน เช่นเดียวกัน โดยให้ไปใช้ซื้อสินค้าและบริการที่จำเป็น

 

อีกมาตรการคือ การช่วยกองทุนหมู่บ้านที่มีหนี้สะสม ด้วยการพักชำระหนี้เงินต้นให้กับกองทุนฯ 1 ปี เพื่อนำเงินไปบริหารจัดการและดูแลสมาชิกกองทุน

 

การช่วยเหลือภัยแล้ง  ทั้งการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกค้าธนาคาร ธ.ก.ส. เหลือ 0.1% สำหรับต้นเงินกู้ที่ไม่เกิน 3 แสนบาท เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่ 1 ส.ค.62  – 31 ก.ค.63

 

ขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้ให้ลูกค้าธ.ก.ส. ไม่จำกัดวงเงิน เป็นเวลา 2 ปีนับจากงวดชำระเดิมแต่ไม่เกิน 31 ก.ค.64

 

ธ.ก.ส.จัดสินเชื่อฉุกเฉิน ไม่เกินรายละ 5 หมื่นบาท ไม่คิดดอกเบี้ยปีแรก พร้อมกับสินเชื่อฟื้นฟูความเสียหาย รายละไม่เกิน 5 แสนบาท

 

ผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 62/63 รัฐบาลจะช่วยค่าปลูกไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ แต่ให้เฉพาะชาวนาที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร

 

มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ รัฐจะสนับสนุนการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังของธนาคารกรุงไทย แยกเป็น 2 ต่อ

 

ต่อแรกได้รับเงินไปเที่ยวคนละ 1,000 บาท เพื่อซื้อสินค้าบริการกับผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนร่วมมาตรการ โดยต้องใช้ภายใน 14 วันหลังจากได้รับการยืนยัน

 

ต่อที่ 2 จะได้รับวงเงินคืนสูงสุด 15% ของยอดการจ่ายเงินจริง โดยสามารถใช้จ่ายไม่เกินคนละ 3 หมื่นบาท ผู้ที่จะได้รับต้องไปใช้จ่ายคาอาหาร เครื่องดื่ม ค่าที่พัก หรือซื้อสินค้าท้องถิ่น และต้องใช้จ่ายนอกจังหวัดที่ระบุไว้ในทะเบียนบ้าน โดยจะเปิดลงทะเบียนผ่านเว็ปไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งแต่ 23 ก.ย.- 15 พ.ย.62 หรือจนกว่าสิทธิจะหมด ซึ่งสามารถท่องเที่ยวได้ภายในวันที่ 27 ก.ย. – 30 พ.ย.62 กำหนดไว้เพียง 10 ล้านคนแรกเท่านั้น

 

ที่มีข่าวออกมาว่า  คนจนที่ถือบัตรสวัสดิการ จะเข้าร่วมโครงการให้เงินไปเที่ยว 1,000 บาทไม่ได้ ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะคนทุกคนจะได้รับสิทธินี้ทั้งหมด เพียงแค่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ต้องเข้ามาลงทะเบียนใช้สิทธิตามขั้นตอน เหมือนกับคนอื่นๆที่ต้องการเข้ามารับสิทธิ

 

มาตรการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน และอินเดีย เป็นเวลา 1 ปี  ที่ประชุมครม.ไม่เห็นชอบ แต่เห็นชอบให้ต่ออายุมาตรการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียม วีซ่าออนอาร์ไรวัล หรือวีซ่าหน้าด่าน จากที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค.62 ให้ขยายเวลาไปอีก 6 เดือน ถึงสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.63 แทน

 

มาตรการอื่นๆ เช่น การช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายย่อย ที่ไม่สามารถขอสินเชื่อกับธนาคารได้ จะใช้กองทุน สส. จำนวน 1 หมื่นล้านบาทไปช่วยสนับสนุน คิดดอกเบี้ยต่ำ 1% ต่อปี

 

เอสเอ็มอีทั่วไปจะมีสินเชื่อจากธนาคารออมสินและกรุงไทย วงเงินรวม 1 แสนล้านบาท สนับสนุน คิดดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% ต่อปี

 

ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อวงเงิน 1.5 แสนบาท ชดเชยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 30% และฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี ผู้ประกอบการอื่นๆ ที่มีค่าใช้จ่ายลงทุนเครื่องจักรในช่วง 1 ก.ย.62 – 31 พ.ค.63 สามารถหักรายจ่ายลงทุนได้ 1.5 เท่า

 

matemnews.com 

20 สิงหาคม 2562