นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แถลงข่าว ว่า วันนี้ได้มีการประชุมความคืบหน้าการจัดตั้ง “คณะกรรมการประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอมที่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน” เพื่อสนับสนุนการทำงานของศูนย์ตรวจสอบข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) ซึ่งตั้งเป้าว่าจะดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในเดือนตุลาคมนี้
ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุด เพื่อจัดกลุ่มดำเนินงานให้ครบถ้วน และครอบคลุมประเด็นปัญหาข่าวปลอม ตลอดจนความมีประสิทธิภาพในการประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาข่าวปลอมที่อยู่ในกระแสสังคมออนไลน์ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย
1.กลุ่มภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว เขื่อนแตก สึนามิ ไฟไหม้
2.กลุ่มเศรษฐกิจ การเงินการธนาคาร/หุ้น
3.กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายอื่น
4.กลุ่มนโยบายรัฐบาล/ข่าวสารทางราชการ/ความสงบเรียบร้อยของสังคม/ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ
ที่ประชุม หารือกันเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การวิเคราะห์ข้อมูลข่าวปลอม เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่แพลตฟอร์มระดับโลก เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูป ใช้อยู่ โดยในส่วนของเฟซบุ๊ก กำหนดนโยบายที่เรียกว่า มาตรฐานชุมชน (Community Standards) เป็นกฎเกณฑ์กำกับดูแลการใช้งาน ขณะที่ บริษัท กูเกิล ซึ่งเป็นเจ้าของยูทูป มีการกำหนดหลักเกณฑ์ชุมชน (Community Guidelines) ไว้เช่นเดียวกัน
ถ้าหลักเกณฑ์ของประเทศไทยจัดทำได้สอดคล้องกับสากล การยืนยันข่าวปลอมของศูนย์ Anti-Fake News ก็จะได้รับการยอมรับจากแพลตฟอร์มโซเชียลเหล่านั้นด้วย และเป็นอีกช่องทางในการแจ้งข้อมูลที่ถูกต้อง และระงับการเผยแพร่ข่าวปลอมได้อย่างรวดเร็วในวงกว้าง
ที่ประชุม ได้พิจารณาความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์สำหรับบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ เอกชน และประชาชน ต่อการป้องปรามข่าวปลอมทางโลกดิจิทัล เพื่อสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการรับรู้ข้อมูลข่าวสารผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ข่าวอันเป็นเท็จที่เป็นกระแสสังคมทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ ในปัจจุบันพบว่ามีความคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงในหลายกรณี ทั้งด้วยความตั้งใจของผู้ส่งข่าวสารที่หวังผลให้เกิดความแตกแยกในสังคม หรือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน หรืออาจด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดวิจารณญาณในการตรวจสอบกลั่นกรองก่อนส่งต่อข้อมูลข่าวสารให้ผู้อื่น”
บทบาทศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) จะทำหน้าที่ตรวจสอบ วิเคราะห์ และรับแจ้งข้อมูลข่าวสารที่นำเสนอไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เผยแพร่อยู่ในสังคม ผ่านช่องทางหลักๆ ของศูนย์ฯ ได้แก่ เว็บไซต์, เพจเฟซบุ๊ก และไลน์ (LINE Official Account) เพื่อให้ผู้ที่รับผิดชอบในคณะอนุกรรมการฯ เข้ามาคัดกรองข่าวปลอมทางออนไลน์ที่มีเนื้อหาเข้าข่ายใน 4 กลุ่มหลักข้างต้น ก่อนประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง/หน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย ทำการแจ้งเตือน/นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง รวมถึงการแจ้งเตือนภัยพิบัติให้หน่วยงานและประชาชนได้รับทราบโดยตรงอย่างทันท่วงทีผ่านทุกช่องทางที่มีอยู่ รวมถึงผ่านกลไกภาคสื่อสารมวลชน เครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน
matemnews.com
29 สิงหาคม 2562