วันที่ 1 ก.ย.62 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร หน่วยงานราชการ เอกชน และรัฐวิสาหกิจในจังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดใกล้เคียง ประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา กว่า 500 คน เข้าร่วมงานรำลึก 29 ปี สืบ นาคะเสถียร ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี
กิจกรรม “รำลึก 29 ปี สืบ นาคะเสถียร”จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงการจากไปของ สืบ นาคะเสถียร อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งที่ทำอัตวินิบาตกรรมจบชีวิตตัวเอง ช่วงเช้าของวันที่ 1 กันยายน 2533 ภายในบ้านพักที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
จากข้อมูลเมื่อปี พ.ศ. 2532 สืบ นาคะเสถียร ได้เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และพบกับปัญหามากมายที่สืบตั้งเจตนารมณ์ว่าต้องแก้ไขให้ได้ เช่น ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า การล่าสัตว์ของกลุ่มผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าถูกยิงเสียชีวิต ปัญหาความยากจนของชาวบ้านรอบป่า แต่ก็เป็นเรื่องยากยิ่งที่จะแก้ไขได้ และได้พยายามแก้ปัญหาในหลายๆด้าน แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ จนกระทั่งเช้ามืดของวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2533 สืบ นาคะเสถียร จึงได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยปืนหนึ่งนัด ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งการเสียชีวิตของ สืบ นาคะเสถียร ตั้งแต่บัดนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการอนุรักษ์ป่าไม้ สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่ง วันที่ 1 กันยายนจึงเป็นวันที่ทุกคนจะร่วมระลึกถึงความเสียสละของสืบ นาคะเสถียร
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ภายในงานมีการวางหรีด รำลึก สืบนาคะเสถียร มอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรเจ้าหน้าทิ่พิทักษ์ป่าและนักเรียนจำนวน 58 ทุน การบรรยายและชมนิทรรศการ “Smart Patrol” และเรื่อง “เสือ” กิจกรรมเตรียมความพร้อมสัตว์ป่าก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ จากคอกพักสัตว์สู่คอก soft release เนื้อที่ 100 ไร่ เพื่อให้สัตว์ป่าปรับตัว ให้เข้ากับสภาพธรรมชาติ ก่อนปล่อยคืน สู่ธรรมชาติอย่างแท้จริงต่อไป
ในวันนี้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เตรียมสัตว์ป่า 2 ชนิด ได้แก่ เนื้อทราย จำนวน 70 ตัว และละมั่ง จำนวน 30 ตัว รวมเป็น 100 ตัว ซึ่งเดิมเลี้ยงไว้ในคอกขนาดเล็ก มาปล่อยในพื้นที่คอกขนาดใหญ่ ขนาด 100 ไร่ เพื่อให้สัตว์ป่าได้คุ้นชินกับสภาพพื้นที่อย่างค่อยเป็นค่อยไป จนสามารถหาอาหาร ได้เอง รู้จักศัตรู รู้วิธีหลบภัยจากศัตรู ตามรูปแบบการปล่อยสัตว์ป่า แบบซอฟท์ รีลีส จึงจะได้นำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติอย่างแท้จริงต่อไป สำหรับพื้นที่ ณ จุดปล่อยสัตว์ป่า
นอกจะมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สัตว์ป่า ได้ปรับตัวก่อนปล่อยคืนสู่สภาพแล้ว ยังจะได้ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ และใช้ประโยชน์ สัตว์ป่าจากการท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนได้มีรายได้และเกิดความรัก หวงแหน เห็นคุณค่าในทรัพยากรสัตว์ป่าให้มากขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้สัตว์ป่าที่นำมาปล่อยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ตรวจสุขภาพ และตรวจโรค เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นพาหะนำโรคไปสู่สัตว์ป่าในธรรมชาติ เรียบร้อยแล้ว
ที่มา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช